แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,83 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม มาตรา 290 จำคุกจำเลยคนละ 4 ปี ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 290 แต่ลดมาตราส่วนโทษให้นายซ้งจำเลยคนหนึ่ง 1 ใน 3 ให้จำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือน นอกนั้นวางโทษจำคุกคนละ 4 ปี และลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยคนละ 1 ใน 4คงเหลือโทษจำคุกนายซ้ง 2 ปีจำเลยนอกนั้นคนละ 3 ปี ดังนี้ ถือว่าแก้น้อยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามฐานบังอาจร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 และขอให้สั่งริบของกลาง
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290 ให้จำคุกจำเลยคนละ 4 ปี ของกลางริบ
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยทั้งสามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 แต่นายซ้งจำเลยอายุยังไม่ครบ 20 ปี ให้ลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 หนึ่งในสาม วางโทษจำคุกนายซ้ง 2 ปี 8 เดือน นอกนั้นวางโทษจำคุกคนละ 4 ปี การกระทำของจำเลยมีเหตุบันเทาโทษได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษที่จะลงแก่จำเลยคนละหนึ่งในสี่คงเหลือโทษจำคุกนายซ้ง 2 ปี นอกนั้นคนละ 3 ปีนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อยจำเลยจึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดตรงข้ามกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณานั้น พิจารณาแล้วปรากฏว่า ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่ามีเหตุควรเชื่อได้ว่าจำเลยทั้งสามกับพวกอีกหลายคน ได้ไล่ทำร้ายผู้ตายจนถึงแก่ความตายนั้นมีคำพยานโจทก์เบิกความยืนยันว่า จำเลยทั้งสามได้วิ่งไล่และได้ทำร้ายผู้ตายจริง จึงฟังไม่ได้ว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณา ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย