คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1412/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น มีผู้เข้าไปช่วยดับเพลิงแล้วถูกไฟลวกถึงแก่ความตาย การเข้าไปช่วยดับเพลิงเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายเอง หาใช่การวางเพลิงของจำเลยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายไม่จำเลยจึงไม่ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 224
ห้องที่จำเลยวางเพลิงเป็นตึกแถว จำเลยเช่าเปิดเป็นร้านขายยาและตรวจรักษาโรคในตอนกลางวัน ส่วนในตอนกลางคืนจำเลยกับครอบครัวไปนอนที่อื่น ไม่มีคนอยู่อาศัยในห้องนั้นแต่มีห้องติดกันซึ่งเป็นตึกแถวเดียวกันมีคนเช่าอยู่อาศัยหลับนอน ดังนี้ ตึกแถวที่จำเลยวางเพลิงย่อมเป็นตึกแถวที่มีคนอยู่อาศัย จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218(1) (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 27/2504)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานวางเพลิงเผาตึกแถวเลขที่ 915อันเป็นโรงเรือนที่คนอยู่อาศัย เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217, 218, 224

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 224 จำคุกตลอดชีวิต

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217, 218 ให้ลงโทษตามมาตรา 218 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 20 ปี

โจทก์จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเช่าตึกแถวเลขที่ 915 เปิดเป็นร้านขายยาและตรวจรักษาโรค จำเลยกับครอบครัวไม่ได้หลับนอนอยู่ในร้านค้านี้ แต่ไปหลับนอนที่อื่นเช้าจำเลยมาเปิดร้าน เย็นปิดร้านใส่กุญแจกลับไปอยู่ที่บ้านจำเลย ในร้านนั้นไม่มีใครอยู่ในวันเกิดเหตุเวลากลางวัน จำเลยได้วางเพลิงเผาร้านค้านั้นโดยหวังเงินประกัน วางเพลิงแล้วจำเลยปิดร้านใส่กุญแจหนีไปมีคนมาช่วยดับเพลิง นายฟุกหรือฝกผู้เข้าช่วยดับเพลิงถึงแก่ความตายเพราะถูกไฟลวก ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ได้ความว่านายฟุกได้สมัครใจเข้าไปช่วยดับเพลิงแล้วถูกไฟลวก อยู่ได้ 5 วันจึงตาย การเข้าไปช่วยดับเพลิงเป็นเหตุให้นายฟุกถึงแก่ความตายเอง หาใช่การวางเพลิงของจำเลยเป็นเหตุให้นายฟุกถึงแก่ความตายไม่ จำเลยจึงไม่ควรมีความผิดตามมาตรา 224 ดังโจทก์ฎีกาโต้เถียง ส่วนการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 218 หรือไม่นั้นได้ความว่าตึกแถวเดียวกันกับตึกแถวห้องที่เกิดเพลิงไหม้เลขที่ 915 นั้น ห้องเลขที่ 917 ซึ่งอยู่ติดกันก็เป็นที่อยู่อาศัยของนางสาวสายพิณผู้เช่า และห้องเลขที่ 913 ซึ่งอยู่ติดกับตึกแถวห้องที่เกิดเพลิงไหม้อีกด้านหนึ่งแม้เวลากลางวันนางแกมผู้เช่าไม่ได้เข้าอาศัยอยู่เพียงแต่นำขดลวดมาเก็บไว้ แต่เวลากลางคืนก็ได้ให้นายสืบพงษ์กับนายอนันต์ผู้เป็นบุตรมานอนเฝ้า จึงฟังได้ว่าตึกแถวที่จำเลยวางเพลิงเป็นตึกแถวที่มีคนอยู่อาศัย ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 218(1) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 218 ชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share