แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีผู้ให้เช่าส่งคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับแล้วถูกสั่งกลับคืนมาโดยสลักหลังว่า “ผู้รับไม่อยู่ไม่มีใครรับแทน” ดังนี้ ถือว่ามีคนรับแต่ไม่มีใครรับแทน และการจัดการส่งคำบอกล่าวเช่นนี้ถือว่า ได้ปฏิบัติการตามสมควรที่จะกระทำได้แล้ว ผู้หลีกเลี่ยงไม่ยอมรับคำบอกกล่าวต้องถือว่าได้รับทราบคำบอกกล่าวแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าอ้างว่า จำเลยให้เช่าช่วงโดยไม่รับอนุญาต เป็นการผิดสัญญา
จำเลยให้การว่า ไม่ได้ให้เช่าช่วงและว่าไม่ได้รับคำบอกล่าวเลิกสัญญา
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยให้เช่าช่วงและโจทก์ได้ส่งคำบอกกล่าวเลิกสัญญาแล้ว การที่จำเลยไม่ยอมรับ ไม่เป็นเหตุแก้ตัว พิพากษาให้ขับไล่
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยไม่ได้ให้เช่าช่วง และจำเลยยังไม่ได้รับคำบอกกล่าวแสดงเจตนาเลิกสัญญา พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยให้เช่าช่วงโดยไม่รับอนุญาต ส่วนคำบอกกล่าวเลิกสัญญานั้น โจทก์ได้ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับและถูกส่งคืนมาโดยสลักหลังว่า ผู้รับไม่อยู่ ไม่มีใครรับแทน ซึ่งถือว่ามีคนรับแต่ไม่มีใครรับแทน นอกจากนี้ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์จัดการส่งเช่นนั้นโจทก์ได้ปฏิบัติตามสมควรที่จะกระทำแล้ว เทียบได้กับวิธีส่งคำคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๗๙ การที่ส่งไม่ได้จึงเห็นได้ว่าเป็นเพราะจำเลยหลีกเลี่ยงไม่ยอมรับเอง ต้องถือว่าจำเลยได้รับทราบคำบอกกล่าวเลิกสัญญาแล้ว
จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ ให้ขับไล่จำเลย