แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อได้ความว่าจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งเข้ามาในที่เกิดเหตุด้วยกัน พอพวกของจำเลยเข้าทำร้ายผู้ตาย จำเลยก็เข้าช่วยพวกของตนทำร้ายผู้ตายด้วย และเมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย ดังนี้จำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งสมคบกันใช้กำลังกายต่อย เตะ กระทืบนายจันทร์ตายโดยเจตนาขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 249, 63
จำเลยปฏิเสธ
ศาลจังหวัดเชียงรายพิพากษาคดีนี้รวมกับสำนวนที่นายนพต้องหาว่าสมคบกับจำเลยในคดีนี้ฆ่านายจันทร์และพิพากษาว่า จำเลยกับนายนพมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 251 ให้จำคุกคนละ 6 ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
พลตำรวจอินคำจำเลยในคดีนี้แต่ผู้เดียวฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อว่าจำเลยเข้าช่วยนายนพชกต่อย เตะ ถีบและกระทืบนายจันทร์ต้องบาดเจ็บถึงแก่ความตายส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่าทางพิจารณาไม่ได้ความชัดว่านายจันทร์ตายเพราะบาดเจ็บที่จำเลยทำร้ายนั้น ข้อนี้ได้ความว่าจำเลยกับนายนพเข้ามาในที่เกิดเหตุด้วยกัน เมื่อนายนพเข้าทำร้ายนายจันทร์จำเลยก็เข้าช่วยนายนพกลุ้มรุมทำร้ายนายจันทร์ด้วย และนายจันทร์ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกทำร้าย ดังนี้ต้องวินิจฉัยว่าจำเลยสมคบกับนายนพฆ่านายจันทร์ตายจำเลยต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการเช่นเดียวกับนายนพ
พิพากษายืน