คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1289/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องของโจทก์กล่าวอ้างว่าเป็นคนไทยถูกจำเลยบังคับให้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว ดังนี้หาใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ร้องขอคืนสัญชาติไม่ จึงไม่ต้องไปร้องต่อร.ม.ต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย ตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2495 มาตรา 20
จำเลยเป็นผู้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่กับโจทก์ โจทก์ย่อมต้องฟ้องจำเลย หาใช่จะไปฟ้องกรมตำรวจซึ่งมิได้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ไม่
การที่โจทก์ถูกโต้แย้งหน้าที่โดยนายทะเบียนคนต่างด้าว โจทก์ย่อมฟ้องผู้บังคับกองตำรวจผู้เป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวโดยพ.ต.ต.สง่า อินทวณิช เป็นผู้ครองตำแหน่งอยู่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นคนไทยได้สมรสกับคนต่างด้าวแต่หาได้สละสัญชาติไทยไม่ พ.ศ. 2486 ประกาศใช้พระราชบัญญัติการทะเบียนคนต่างด้าวพนักงานเจ้าหน้าที่ทะเบียนคนต่างด้าวอำเภอเมืองสุโขทัยบังคับให้หญิงไทยที่สมรสกับคนต่างด้าวไปขอรับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโจทก์จึงจำต้องไปรับและต่อมาก็มิได้เรียกร้องให้ทำอะไรแก่ใบสำคัญนั้นอีก บัดนี้จำเลยซึ่งเป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวเรียกโจทก์ไปให้ต่อถ้าไม่ต่อจะเนรเทศ โจทก์ถือว่าเป็นคนไทยไม่ขาดจากสัญชาติไทย จึงขอให้ศาลแสดงว่าใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวของโจทก์เป็นโมฆะ

จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง หากมีก็ต้องฟ้อง ร.ม.ต.ว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่ใช่ฟ้องจำเลย บิดาโจทก์เป็นคนจีนโจทก์ได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วต้องขาดจากสัญชาติไทยและโจทก์สมรสกับคนจีนได้ขอสละสัญชาติโดยสมัครใจ ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวจึงสมบูรณ์ ข้ออ้างของโจทก์จึงฟังไม่ขึ้น

ศาลชั้นต้นสอบโจทก์จำเลยแล้วเห็นว่ามีประเด็นเพียงว่าโจทก์ซึ่งมีสัญชาติไทยบิดาเป็นคนต่างด้าวและได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแล้วโดยถูกบังคับหรือสมัครใจก็ตามจะทำให้โจทก์ขาดจากสัญชาติไทยหรือไม่ จึงสั่งงดสืบพยานทั้งสองฝ่าย แล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ขาดจากสัญชาติไทยแล้วพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการสืบพยานในประเด็นข้อโต้เถียงที่ว่า โจทก์รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยถูกเจ้าพนักงานบังคับหรือไม่แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

แต่มีความเห็นแย้งว่า ตำแหน่งผู้บังคับกองตำรวจจังหวัดสุโขทัยไม่ใช่บุคคลตามกฎหมายย่อมเป็นจำเลยไม่ได้ ชอบที่จะต้องยกฟ้อง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาปรึกษาแล้วในชั้นนี้มีปัญหาว่าโจทก์จะมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีต่อศาลได้หรือไม่

ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นคนไทยแต่ถูกจำเลยบังคับให้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวมิใช่เรื่องที่โจทก์ขอคืนสัญชาติฉะนั้นโจทก์จึงไม่จำต้องไปร้องขอคืนสัญชาติต่อ ร.ม.ต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย ตาม พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2495

กรมตำรวจไม่ได้เป็นผู้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่กับโจทก์ ๆ จะฟ้องกรมตำรวจได้อย่างไร จำเลยเป็นผู้โต้แย้งสิทธิและหน้าที่กับโจทก์ ๆ ก็ต้องฟ้องจำเลย

นายทะเบียนคนต่างด้าวนั้นตามพระราชบัญญัติทะเบียนคนต่างด้าวให้คำวิเคราะห์ศัพท์ว่าหมายถึงเจ้าพนักงานซึ่ง ร.ม.ต.แต่งตั้งเพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ และในพระราชบัญญัตินี้เจ้าพนักงานผู้เป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวมีอำนาจตามหน้าที่ตามพระราชบัญญัติที่จะเป็นผู้ออกหนังสือสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวที่มาขอและรับคืนใบทะเบียนคนต่างด้าวซึ่งตายหรือถูกเนรเทศด้วยจำเลยรับว่าผู้บังคับกองตำรวจจังหวัดสุโขทัยซึ่งมี พ.ต.ต.สง่า อินทุวณิช ครองตำแหน่งอยู่ ทำหน้าที่นายทะเบียนคนต่างด้าวอำเภอเมืองสุโขทัย ได้เรียกให้โจทก์มาต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและชำระค่าธรรมเนียม โดยอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าว แต่โจทก์ว่าโจทก์ยังเป็นคนมีสัญชาติไทย โจทก์ถือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวโดยถูกจำเลยบังคับ โจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องไปต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและชำระค่าธรรมเนียมตามที่จำเลยเรียกร้อง ดังนี้จึงเป็นเรื่องที่โจทก์ถูกโต้แย้งหน้าที่โดยนายทะเบียนคนต่างด้าว โจทก์จึงฟ้องผู้บังคับกองตำรวจผู้เป็นนายทะเบียนคนต่างด้าวโดย พ.ต.ต.สง่า อินทุวณิช เป็นผู้ครองตำแหน่งอยู่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

พิพากษายืน

Share