คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็จะรับฟังลงโทษนอกเหนือไปจากความจริงหาได้ไม่
ฟ้องว่าผู้เสียหายบาดเจ็บถึงทุพพลภาพและทนทุกข์เวทนาถ้าไม่สามารถประกอบอาชีพได้ดังปกติเกินกว่า 20 วัน จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์ขอสืบพยานประกอบเพราะแต่วันเกิดเหตุถึงวันจำเลยรับไม่เกิน 20 วัน ผู้เสียหายเบิกความว่าแผลที่ศีรษะแม้รักษา 30 วันแต่ก็ลุกไปไหนไม่ได้เพียงครึ่งเดือนเท่านั้น จึงถือไม่ได้ว่าเป็นบาดเจ็บถึงสาหัสตาม มาตรา 256(8)
ส่วนบาดเจ็บที่นิ้วทำไซดักปลาไม่ได้ 20 วันนั้น ปรากฏว่าผู้เสียหายมีอาชีพทำนา จึงถือไม่ได้ว่าการทำเครื่องมือหาปลาเป็นอาชีพตามปกติตาม มาตรา 256(8)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ไม้ตะบองตีนายสอนมีบาดแผลบาดเจ็บสาหัสถึงความทุพพลภาพและทนทุกข์เวทนากล้าไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้ดังปกติเกินกว่า 20 วัน จำเลยรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์ขอสืบพยานประกอบเพราะตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวันที่จำเลยรับนี้ยังไม่เกิน 20 วัน นายสอนผู้เสียหายเบิกความประกอบว่าแผลที่ศีรษะรักษาประมาณ 30 วันหาย ไปไหนไม่ได้อยู่ครึ่งเดือน แต่แผลที่นิ้วนั้นจนถึงวันเบิกความยังบวมเจ็บเล็บถอดทำไซไม่ได้

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีผิดตาม มาตรา 254, 59 ให้จำคุก3 เดือน

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยให้การรับสารภาพนอกเหนือความจริงในข้อหาฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บถึงสาหัส โดยข้อเท็จจริงได้ความจากคำเบิกความของนายสอนผู้เสียหายว่าบาดแผลที่ศีรษะแม้รักษา30 วันหายแต่ก็รักษาลุกไปไหนไม่ได้เพียงครึ่งเดือนเท่านั้นแผลที่ศีรษะจึงถือไม่ได้ว่าเป็นบาดเจ็บถึงสาหัสตามความในกฎหมายอาญามาตรา 256(8) ตอนแรก เพราะไม่ถึงความทุพพลภาพหรือพยาธิมีอาการประกอบด้วยทุกข์เวทนากล้าเกินกว่า 20 วัน ส่วนบาดเจ็บที่นิ้วชี้และนิ้วกลางซึ่งทำให้ผู้เสียหายทำไซดักปลาไม่ได้เกิน 20 วันนั้นตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากคำเบิกความของนายสอนผู้เสียหายก็ถือไม่ได้ว่าการทำเครื่องมือหาปลาเป็นอาชีพตามปกติคงเป็นการทำในยามว่างจากการทำนาเท่านั้น จึงไม่ใช่เป็นการถูกทำร้ายถึงกับไม่สามารถประกอบการหาเลี้ยงชีพได้โดยปกติเพราะความทุพพลภาพหรือพยาธินั้นเกินกว่า 20 วันตามความกฎหมายอาญามาตรา 256(8)ฉะนั้นจำเลยจะให้การว่าขอให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็รับฟังลงโทษจำเลยตามคำรับที่นอกเหนือความจริงไม่ได้ จึงพิพากษายืน

Share