แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่สาหัสตามมาตรา 254 วางกำหนดโทษจำคุก 6 เดือน
โจทก์อุทธรณ์ต่อมาขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าบาดเจ็บไม่สาหัสก็มีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่สาหัส ตาม มาตรา 254และเห็นสมควรจะวางอัตราโทษเท่าใดตามมาตรานี้ก็ได้แม้จะเพิ่มกำหนดโทษเป็น 1 ปี 6 เดือนสูงกว่าศาลชั้นต้นก็ได้ เพราะไม่เป็นการเกินคำขอตามที่โจทก์ขอให้ลงโทษฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตาม มาตรา 256 นั้นไม่
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานกระทำผิดประมวลรัษฎากรและทำร้ายร่างกายนายมนัสบาดเจ็บสาหัส จำเลยทั้งสองปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีนี้รวมกับคดีที่ ส.ต.ต.สุชาติจำเลยกลับเป็นโจทก์ฟ้องนายมนัส ผู้เสียหายอีกสำนวนหนึ่งหาว่าหมิ่นประมาทและทำร้ายขัดขวาง ส.ต.ต.สุชาติซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ (คดีที่ส.ต.ต.สุชาติเป็นโจทก์ยุติเพียงชั้นศาลอุทธรณ์)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ส.ต.ต.สุชาติจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 254 (คือฟังว่าบาดแผลนายมนัสไม่สาหัส) ให้จำคุก6 เดือน แต่ให้ยกฟ้องอัยการโจทก์สำหรับส.ต.ต.ประสงค์ จำเลย และยกฟ้องอัยการโจทก์ในข้อหาฐานกระทำผิดประมวลรัษฎากรกับให้ยกฟ้องในคดีที่ส.ต.ต.สุชาติฟ้องนายมนัสเป็นจำเลย
อัยการโจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยในข้อหาฐานกระทำผิดประมวลรัษฎากรและขอให้ลงโทษส.ต.ต.สุชาติฐานทำร้ายนายมนัสถึงบาดเจ็บสาหัสตามฟ้อง
ส.ต.ต.สุชาติอุทธรณ์ทั้งในฐานะเป็นจำเลยและเป็นโจทก์ขอให้ยกฟ้องอัยการโจทก์และให้ลงโทษนายมนัส
ศาลอุทธรณ์เห็นชอบกับศาลชั้นต้นที่ลงโทษส.ต.ต.สุชาติจำเลยตามมาตรา 254 (คือคงฟังว่าบาดเจ็บของนายมนัสไม่สาหัส) และจำเลยยังไม่มีผิดตามประมวลรัษฎากรดังฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการที่โจทก์อุทธรณ์นี้ก็เพื่อให้ลงโทษจำเลยในสถานหนักคือตามมาตรา 256 แม้บาดเจ็บของนายมนัสไม่ถึงสาหัสดังโจทก์ขอก็ดี ศาลอุทธรณ์ก็ลงโทษหนักขึ้นได้ และเห็นว่าเรื่องนี้ ส.ต.ต.สุชาติเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่บำรุงสุขระงับทุกข์ของราษฎร กลับทำร้ายผู้เสียหายอย่างอุกอาจสมควรวางโทษจำเลยในสถานหนัก ส่วนอุทธรณ์ของ ส.ต.ต.สุชาติฟังไม่ขึ้น พิพากษาแก้กำหนดโทษส.ต.ต.สุชาติจำเลยให้เป็นจำคุก 1 ปี 6 เดือน นอกนี้ยืน
ส.ต.ต.สุชาติฎีกา ศาลฎีกาสั่งรับเฉพาะข้อกฎหมายในข้อที่ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาเกินคำขอหรือไม่
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสตามมาตรา 256 เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าบาดเจ็บไม่สาหัส คงลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บตามศาลชั้นต้น แต่เพิ่มกำหนดโทษจำเลยหนักขึ้นเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์มีความประสงค์ให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้นนั่นเอง ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาเพิ่มกำหนดโทษจำเลยให้หนักขึ้นได้ตามควรแก่รูปคดี หาเป็นการเกินคำขอไม่ พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์