แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จับผู้เสียหายมัดมือไว้แล้วเลือกแทงด้วยอาวุธแหลมคม 1 ทีถูกใต้สบักขวาด้านหลังทะลุอกแล้วชักอาวุธออกวิ่งหนีไปผู้เสียหายรักษาแผลอยู่ 18 วันและต้องรักษาตัวต่อไปอีก 1 เดือนกว่าจึงหายเป็นผิดตาม มาตรา 249,60
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2497 เวลากลางวัน จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงนางยา เฉลิมภพ บาดเจ็บสาหัส โดยเจตนาจะฆ่าให้ตายแต่มีเหตุสุดวิสัยมาขัดขวาง นางยาจึงไม่ตาย เหตุเกิดที่ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย
จำเลยปฏิเสธข้อหาโจทก์
ศาลจังหวัดสงขลาพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249, 60 ให้จำคุกจำเลย 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาประชุมปรึกษาคดีแล้ว ทางพิจารณาได้ความว่า นางยา เฉลิมภพเป็นภรรยาน้อยของนายเจียร เมื่อเย็นวันที่ 3 มกราคม 2497 ประมาณ 16 น. นางยาออกจากบ้านไปตัดฟืนในสวนยางของจำเลยที่ตำบลควนลัง เผอิญพบจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่ง จำเลยถามนางยาว่ามากี่คนนางยาตอบว่าคนเดียวจำเลยพูดต่อไปว่าดีละ พี่ขอชั่วกับน้องสักที (หมายความว่า ขอให้นางยายอมเป็นเมียจำเลยในเวลานั้น) นางยาไม่ยอมจำเลยก็ตรงเข้ากอดนางยา จะข่มขืนทำชำเรา นางยา จึงร้องเรียกให้นายเจียรช่วย จำเลยก็ถีบนางยาล้มลง นางยายังร้องขอความช่วยเหลือต่อไป พวกของจำเลยก็ถีบนางยาซ้ำ แล้วจับมือนางยามัดไพล่หลังทันใดจำเลยก็ใช้อาวุธแหลมคมแทงนางยาถูกใต้สบักขวาด้านหลังทะลุหน้าอก นางยาล้มลง จำเลยชักอาวุธออกแล้ววิ่งหนีไปกับพวกนางยาต้องนอนจมกองโลหิตอยู่จนใกล้ค่ำ นายเจียรเห็นผิดสังเกตก็ออกตามไปพบนางยาถูกทำร้าย นางยาบอกว่าจำเลยข่มขืนจะทำชำเราเมื่อนางยาไม่ยอมก็แทงเอานายเจียรจัดการนำนางยาไปบ้านแล้วไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ คืนนั้นนางยาได้ถูกส่งไปยังโรงพยาบาล และได้รักษาแผลอยู่ในโรงพยาบาล 18 วัน แผลหาย แต่ยังต้องรักษาตัวอยู่อีก 1 เดือนกว่า
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่เกิดเหตุอยู่ในป่าสวนยางของจำเลย จึงยากที่จะหาพยานอื่นรู้เห็นอีก แม้พยานโจทก์จะมีผู้เสียหายคนเดียว แต่ผู้เสียหายก็เคยรู้จักจำเลยมา ก่อนจำเลยแทงนางยาได้มีการพูดจากันเมื่อนางยาไม่ตกลงด้วย จำเลยก็เริ่มลงมือรุกรานนางยา ไม่มีทางให้เห็นว่านางยาจำจำเลยผิด เมื่อนายเจียรตามไปพบนางยา นางยาก็ระบุชื่อจำเลยทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ไปถามนางยาก็ยืนยันเป็นลำดับว่าจำเลยเป็นคนทำร้ายนางยา คดีฟังได้สนิท พยานจำเลยไม่อาจหักล้างพยานโจทก์ไม่มีทางที่จำเลยจะรอดพ้นอาญาไปได้
ส่วนบาดเจ็บของนางยาปรากฏว่า เป็นแผลถูกแทงที่ใต้สบักขวาเข้าช่องปอด ทะลุหน้าอก เวลาหายใจมีลมออกทางแผล ทั้งนี้แสดงว่าจำเลยได้แทงอย่างแรงมาก มิหนำซ้ำก่อนแทง พวกของจำเลยยังมัดมือจับไว้จำเลยก็เลือกแทงที่สำคัญ ดังนี้ ความผิดของจำเลยตกอยู่ในฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนาจะให้ตาย ที่ศาลล่างวางโทษจำเลยมาเท่านี้เป็นผลดีแก่จำเลยหนักหนา ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย