คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 370/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาไว้กับมารดาโจทก์ว่าห้องแถว 4 ห้องที่จำเลยปลูกขึ้นในที่ดินของมารดาโจทก์ 2 ห้องยกให้กับมารดาโจทก์ อีก 2 ห้องจำเลยเข้าครอบครองและภายใน10 ปีนับแต่วันสร้างห้องแถวเมื่อมารดาโจทก์ต้องการซื้อห้องแถว2ห้องจำเลยจะขายให้เท่าราคาที่ก่อสร้างต่อมามารดาโจทก์ตายโดยยังไม่ซื้อสิทธิของมารดาโจทก์อันเกิดจากสัญญาที่ทำไว้กับจำเลยตามกฎหมายถือว่าเป็นส่วนของกองมรดกของผู้ตายย่อมตกทอดไปยังโจทก์ผู้เป็นทายาทและสิทธิดังกล่าวมาแล้วนี้ตามกฎหมายหรือโดยสภาพแล้วไม่ใช่เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากับนางนพแก้ว ศรีนนท์ มารดาโจทก์ว่าจำเลยจะลงทุนสร้างห้องแถว 4 ห้องในที่ดินของนางนพแก้ว 2 ห้องยกให้นางนพแก้วโดยไม่คิดมูลค่าอีก 2 ห้องจำเลยจะถือสิทธิอยู่และภายใน 10 ปีนับแต่วันสร้างห้องแถวเสร็จเมื่อนางนพแก้วต้องการซื้อห้องแถว 2 ห้องจำเลยจะขายให้เท่าราคาที่ลงทุนก่อสร้าง จำเลยได้มอบห้องแถว 2 ห้องให้นางนพแก้วครอบครองและส่งบัญชีลงทุนสร้างห้องแถว 4 ห้องเป็นเงิน 13,024 บาท ต่อมานางนพแก้วตายสิทธิและทรัพย์มรดกต่าง ๆ ของนางนพแก้วตกทอดมาถึงโจทก์ โจทก์สวมสิทธิแทนนางนพแก้วได้ส่งหนังสือแสดงความจำนงขอซื้อห้องแถวเฉพาะ 2 ห้องที่จำเลยถือสิทธิจากจำเลยตามสัญญาในราคาครึ่งหนึ่งของจำนวนห้องแถว 4 ห้องเป็นราคาเงิน 6,512 บาท จำเลยได้รับหนังสือของโจทก์แล้วจำเลยเพิกเฉยเสีย โจทก์ถือว่าจำเลยผิดสัญญาซื้อขายและความตกลงกันไว้ ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาและความตกลง

จำเลยให้การรับว่าจำเลยกับนางนพแก้วมารดาโจทก์ได้ทำหนังสือสัญญาไว้ต่อกันจริงข้อความเป็นไปตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเว้นแต่ราคาห้องแถว 2 ห้องซึ่งเป็นส่วนของจำเลย จำเลยจะขายให้เท่าราคาที่ก่อสร้างทั้งหมด หาใช่เท่าราคาก่อสร้างเพียง 2 ห้องไม่ เรื่องนี้ถ้าโจทก์มีสิทธิซื้อได้จำเลยก็จะขายให้ แต่ให้โจทก์ใช้ราคาค่าก่อสร้างห้องแถวทั้งหมด และค่าวัตถุสัมภาระซ่อมแซมและค่าจ้างซ่อมแซมที่จำเลยจ่ายรวม 250 บาท และจะขายเฉพาะห้องแถว 2 ห้องส่วนที่ดินที่ตั้งห้องแถวและครัวไฟที่นางนพแก้วให้ตามสัญญาข้อ 5 จำเลยไม่ขาย และตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องได้เพราะเป็นสัญญาจะซื้อจะขายต้องห้ามตามกฎหมาย และคดีขาดอายุความแล้ว เพราะเจ้ามรดกตายเกิน 1 ปี

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลจะวินิจฉัยได้แล้ว จึงให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยเสียและวินิจฉัยว่าสัญญาระหว่างนางนพแก้วกับจำเลยระงับไปแล้ว เพราะเป็นบุคคลสิทธิจึงพิพากษายกฟ้อง

แต่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าสัญญาระหว่างมารดาโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาต่างตอบแทนเกี่ยวกับทรัพย์สินและเห็นว่าสิทธิของมารดาโจทก์ที่จะซื้อห้องพิพาท 2 ห้องตามคำมั่นของจำเลยเป็นกองมรดกของมารดาโจทก์ตกทอดมายังโจทก์ผู้เป็นทายาทใช้สิทธิซื้อห้องพิพาท 2 ห้องจากจำเลยตามสัญญาได้ แต่คดียังมีประเด็นโต้เถียงกันอยู่ซึ่งอาจต้องฟังข้อเท็จจริงกันต่อไป จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาปรึกษาแล้วกรณีนี้เป็นเรื่องสิทธิของนางนพแก้วมารดาโจทก์อันเกิดจากสัญญาซึ่งทำไว้กับจำเลยสิทธินี้ตามกฎหมายถือว่าเป็นส่วนของกองมรดกของผู้ตายย่อมตกทอดไปยังโจทก์ผู้เป็นทายาทและสิทธิในอันจะได้ซื้อห้องพิพาทตามสัญญารายนี้ตามกฎหมายหรือโดยสภาพแล้วไม่ใช่เป็นการเฉพาะตัวของนางนพแก้วโดยแท้ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1600) อนึ่ง ในการวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ไม่เกี่ยวกับข้อที่ว่าเป็นบุคคลสิทธิหรือทรัพยสิทธิดังคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นแต่อย่างใด ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน

Share