แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า’จำเลยมิได้ตั้งใจปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดี เว้นการอันควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างได้วางไว้ เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของรัฐบาลดังกล่าวแล้วเป็นเหตุให้นายนัดนายไปรษณีย์จังหวัดระนองทำการทุจริตยักยอกเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเพราะการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแล้วข้างต้น ฯลฯ ‘ทั้งคำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายไว้ในตอนใดเลยว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรอันเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่จึงเป็นเหตุให้นายไปรษณีย์ยักยอกเอาเงินไปได้ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะต่อสู้คดีให้ถูกต้องได้ เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและยื่นคำร้องเพิ่มเติมแก้ฟ้องว่าเดิมจำเลยทั้งสองนี้รับราชการเป็นลูกจ้างของรัฐบาลแห่งประเทศไทยเป็นข้าราชการพลเรือนรัฐพาณิชย์ มีตำแหน่งเป็นพนักงานไปรษณีย์โทรเลข กระทรวงคมนาคม ประจำทำงานอยู่ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดระนอง มีหน้าที่รับผิดชอบเงินรายรับจ่ายร่วมกับนายนัถุ รุ่งทับพวง นายไปรษณีย์ด้วย เมื่อระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2493 ถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2494 นายนัถุ รุ่งทับพวงยักยอกเงินรายได้ของที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดระนองไปเป็นเงิน 93,839.42 บาท ทั้งนี้เป็นเพราะจำเลยทั้งสองคนมิได้ปฏิบัติราชการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์อันเกี่ยวกับการเก็บรักษาเงินรายได้ของรัฐบาล คือการรับและจ่ายเงินอยู่ในอำนาจของนายไปรษณีย์ นายเพียร รัชนิพนธ์ มีหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายไปรษณีย์อีกตำแหน่งหนึ่ง มีหน้าที่ช่วยราชการต่าง ๆ ตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์โทรเลข การปฏิบัติราชการเกี่ยวกับการเงินของที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดระนองมีตู้เซฟ 1 ตู้ใช้สำหรับเก็บเงินสดไม่เกิน 10,000 บาท รวมทั้งเก็บเอกสารต่าง ๆ ที่เป็นตัวเงินด้วยถ้าเกิน 10,000 บาท ต้องนำส่งคลังจังหวัดรักษา กุญแจสำหรับตู้เซฟมี 3 ดอกมีกรรมการ 3 นายเป็นผู้รักษาร่วมกัน คือนายนัถุรุ่งทับพวง นายเพียร รัชนิพนธ์ และนายอภิชาติ อุทัยวรรณกรรมการทั้ง 3 คนนี้รักษากุญแจคนละดอกทุกวัน เมื่อเปิดหรือปิดที่ทำการกรรมการทั้งสามนายนี้จะต้องร่วมกันเปิดและปิดตู้เซฟและตรวจนับเงินสดที่คงเหลือตามบัญชีเงินสดและตามบัญชีหลักฐานสนับสนุน เมื่อตรวจนับเงินสดกับบัญชีเงินสดและตามบัญชีหลักฐานสนับสนุนถูกต้องตรงกันแล้ว กรรมการทั้งสามนายต้องลงชื่อเป็นหลักฐานในบัญชีเงินสดเงินรายได้ต่าง ๆ ประจำวันของที่ทำการไปรษณีย์ทั้งหมด ในวันหนึ่ง ๆ ต้องส่งมอบให้นายนัถุ นายไปรษณีย์พร้อมทั้งบัญชีเงินสดและบัญชีหลักฐานสนับสนุนกับตัวเงินด้วยทุกวันไป กรรมการผู้รักษากุญแจทั้งสามนายนี้มีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินทุกประเภทร่วมกันเมื่อเกิดการสูญหายขึ้น จำเลยทั้งสองนี้มิได้ปฏิบัติราชการตามระเบียบแบบแผนคำสั่งและข้อบังคับของกรมไปรษณีย์ได้วางไว้เพื่อเป็นหลักสำหรับปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดี เว้นการอันควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ผู้เป็นนายจ้างได้วางไว้เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของรัฐบาลเป็นเหตุให้นายนัถุ รุ่งทับพวงยักยอกเอาไปได้ขอให้ใช้เงินที่นายนัถุยักยอกไปพร้อมทั้งดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เงินเสร็จ
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธความรับผิดต่อสู้ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยโดยถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับแล้วและตัดฟ้องว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยมิได้เป็นลูกจ้างรัฐบาล และมิได้ทำผิดสัญญาจ้างฟ้องของโจทก์ขาดอายุความฐานละเมิด เมื่อจำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้วไม่ต้องรับผิดร่วมกับนายนัถุ
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์จำเลยเห็นว่าจำเลยเป็นข้าราชการอยู่ในฐานะเสมียนและลูกจ้างของรัฐบาลแต่ไม่ใช่ลูกจ้างของรัฐบาลแห่งประเทศไทย และฟ้องไม่แสดงให้แจ้งชัดถึงรายละเอียดว่ามีระเบียบแบบแผนคำสั่งข้อบังคับว่าอย่างไรจึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาประชุมปรึกษาแล้วฟ้องโจทก์เพียงแต่กล่าวว่า จำเลยมิได้ตั้งใจปฏิบัติราชการให้เป็นไปด้วยดีเว้นการอันควรปฏิบัติตามหน้าที่และมิได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนของกรมไปรษณีย์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างได้วางไว้เพื่อปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บและรักษาเงินรายได้ของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว เป็นเหตุให้นายนัถุ นายไปรษณีย์จังหวัดระนองทำการทุจริตยักยอกเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียเพราะการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวแล้วข้างต้น ฯลฯ คำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายไว้ในตอนใดเลยว่าจำเลยได้กระทำอย่างไรอันเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ จึงเป็นเหตุให้นายนัถุ รุ่งทับพวงยักยอกเอาเงินไปได้ ฟ้องโจทก์จึงไม่มีประเด็นที่จำเลยจะต่อสู้คดีให้ถูกต้องได้ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์อยู่ในลักษณะเคลือบคลุมนั้นชอบแล้ว
จึงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้นให้ยกเสีย