คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 186/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่ฎีกาได้เฉพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาจากพยานหลักฐานในท้องสำนวน
เมื่อปรากฏว่าจำเลยเช่าห้องโดยเจตนาเป็นที่อยู่อาศัยตั้งแต่แรกซึ่งต่อมาได้ประกอบกิจการค้าบ้างเล็กๆ น้อยๆ เป็นการชั่วคราวและต่อมาก็ได้เลิกกิจการค้าไปแล้ว ดังนี้ห้องเช่ารายพิพาทก็ยังคงถือว่าเป็น ‘เคหะ’ อันพึงได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯเจ้าของห้องหามีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องแถวของโจทก์ที่อยู่ในย่านชุมนุมชนทำเลการค้าเพื่อทำการค้า โจทก์ไม่ประสงค์ให้เช่า บอกเลิกสัญญาเช่าไปแล้วจำเลยหายอมออกไม่ จึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยต่อสู้ว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัยเป็นประธาน แม้จะได้มาประกอบการค้าขึ้นในภายหลังก็ได้เลิกการค้าก่อนโจทก์บอกกล่าว จึงได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ พ.ศ. 2489

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาปรึกษาแล้วคดีนี้มีปัญหามาสู่ศาลนี้แต่เฉพาะในข้อกฎหมายเท่านั้น ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาจากพยานหลักฐานในท้องสำนวน ฯ ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อปรากฏว่าจำเลยเช่าห้องโจทก์โดยเจตนาเป็นที่อยู่อาศัย แม้จำเลยจะประกอบการค้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสถานที่นั้นด้วยเป็นการชั่วคราว ห้องเช่ารายพิพาทก็ยังคงเป็น “เคหะ” อันได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯ โจทก์ไม่มีสิทธิขับไล่จำเลยได้

พิพากษายืน

Share