แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยกัญชาสดจากไร่ของจำเลยกับกัญชาแห้งที่กระท่อมนาของจำเลย ซึ่งจำเลยครอบครองพร้อมกันมา มิใช่ครอบครองกัญชาสดก่อนแล้วมาครอบครองกัญชาแห้งภายหลัง เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติกัญชา พ.ศ.2477 มาตรา 7 บทเดียวมิใช่หลายกระทง
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติกัญชาพ.ศ. 2477 เรียงกระทงลงโทษฐานปลูกกัญชา จำคุก 6 เดือน ฐานมีกัญชาสดจำคุก 6 เดือน ฐานมีกัญชาแห้งจำคุก 6 เดือน รวม 1 ปี 6 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 จำคุก 9 เดือน ริบของกลางศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะฐานมีกัญชาสดและกัญชาแห้งเป็นกรรมเดียวจำคุก 4 เดือน รวมกับฐานปลูกกัญชา ลดโทษแล้วคงจำคุก 5 เดือน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามฟ้อง ปัญหามีว่า จำเลยมีความผิดฐานมีกัญชาแห้งไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกหรือไม่ ในปัญหาข้อนี้ปรากฏว่า ตามพระราชบัญญัติกัญชา พ.ศ. 2477 มาตรา 7 วรรคแรก บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดมี ซื้อ ขายจำหน่าย หรือสูบกัญชา ฯลฯ” เท่านั้น หาได้บัญญัติถึงความผิดฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย แยกออกจากการมีกัญชาด้วยไม่ แต่พออนุมานได้ว่าฎีกาของโจทก์มุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาแห้งไว้ในความครอบครองอีกกระทงหนึ่งด้วยเท่านั้น
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว คำฟ้องของโจทก์ข้อ 1 ข. มีใจความว่า เมื่อระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2519 ถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2519 เวลากลางวันและกลางคืน แต่ต่างวาระกัน จำเลยบังอาจมีกัญชาสดหนัก 2,000 กรัมไว้ในความครอบครอง และข้อ 1 ก. มีใจความว่า เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2519เวลากลางวัน จำเลยบังอาจมีกัญชาแห้งหนัก 30,000 กรัม ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่า วันเวลาที่จำเลยมีกัญชาแห้งไว้ในความครอบครองก็อยู่ในวันเวลาสุดท้ายที่หาว่าจำเลยมีกัญชาสดไว้ในความครอบครองตามฟ้องข้อ 1 ข. นั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้จากตามฟ้องข้อ 2 มีใจความว่า วันที่ 28 ธันวาคม 2519 เวลากลางวัน เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยกัญชาดังกล่าวในฟ้องข้อ 1 คือกัญชาสดและกัญชาแห้งถูกยึดไว้ได้ในวันเดียวกัน แม้เจ้าพนักงานไปจับและยึดกัญชาสดได้จากไร่ของจำเลยก่อน แล้วมาได้กัญชาแห้งที่กระท่อมนาของจำเลยภายหลังก็ตาม แต่ตามวันเวลาในฟ้องโจทก์ข้อ 1 ข. และ ค. จำเลยได้บังอาจครอบครองกัญชาทั้งสองชนิดพร้อมกันตลอดมา ซึ่งหาใช่จำเลยครอบครองกัญชาสดมาก่อนแล้วมาครอบครองกัญชาแห้งภายหลัง อันเป็นการกระทำหลายกรรมตามที่โจทก์ฎีกาไม่ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวกัน ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยและพิพากษาลงโทษจำเลยนั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน