คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

บริษัทโจทก์สั่งซื้อเส้นด้ายใยประดิษฐ์เข้ามาจากต่างประเทศใช้เย็บถุงกระดาษบรรจุผงซิเมนต์ซึ่งโจทก์ผลิตบรรจุถุงขาย มิได้นำเส้นด้ายนี้ไปขาย ไม่เป็นการสั่งเส้นด้ายเข้ามาผลิตปูนซิเมนต์ ไม่ว่าโจทก์จะขายโดยคำนวณต้นทุนรวมถุงด้วยหรือไม่ โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าโดยถือการนำเข้าเป็นการขายด้วย

ย่อยาว

จำเลยประเมินให้โจทก์เสียภาษีการค้าในการที่โจทก์สั่งเส้นด้ายใยประดิษฐ์เข้ามา เสียเงินเพิ่มเบี้ยปรับ และภาษีบำรุงเทศบาล ซึ่งคณะกรรมการอุทธรณ์ชี้ขาดตามที่ได้ประเมินนั้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องที่โจทก์อุทธรณ์ต่อมา โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด และจดทะเบียนการค้าเป็นผู้ประกอบการค้าผลิตปูนซิเมนต์โจทก์ได้สั่งและนำเส้นด้ายใยประดิษฐ์เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อใช้เย็บถุงกระดาษสำหรับบรรจุซิเมนต์ที่โจทก์ผลิตจำหน่าย เมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน 2510 รวม 3 ครั้ง และได้ชำระภาษีการค้าไว้ร้อยละ 3.5 ต่อมาโจทก์ได้รับแบบแจ้งการประเมินภาษีการค้าจากเจ้าพนักงานประเมินภาษีการค้าของจำเลยที่ 2 รวม 3 ฉบับ ให้โจทก์เสียภาษีการค้าเพิ่มอีกร้อยละ 3.5 เป็นเงินภาษีการค้ารวมทั้งเงินเพิ่ม เบี้ยปรับและภาษีบำรุงเทศบาลโจทก์ยื่นอุทธรณ์ จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ วินิจฉัยชี้ขาดให้โจทก์เสียภาษีการค้าตามที่เจ้าพนักงานประเมินภาษีการค้าแจ้งการประเมินให้โจทก์ทราบ

ปัญหาว่า โจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าสำหรับเส้นด้ายใยประดิษฐ์ที่สั่งและนำเข้ามาในราชอาณาจักรหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าผลิตปูนซิเมนต์จำหน่าย โจทก์สั่งและนำเส้นด้ายใยประดิษฐ์เข้ามาใช้เย็บถุงกระดาษสำหรับบรรจุผงซิเมนต์ที่โจทก์ผลิตจำหน่าย ดังนี้ไม่ว่าโจทก์จะขายถุงปูนซิเมนต์โดยคำนวณต้นทุนการผลิตรวมกันไปกับปูนซิเมนต์หรือไม่ ก็ถือไม่ได้ว่าโจทก์สั่งสินค้าเส้นด้ายดังกล่าวเข้ามาผลิตเพื่อขายสินค้าปูนซิเมนต์ อันเป็นสินค้าที่โจทก์ประกอบการค้าอยู่จึงนับได้ว่าการที่โจทก์นำเส้นด้ายใยประดิษฐ์ตามฟ้องเข้ามาราชอาณาจักรเป็นการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าประเภทการค้า 1 ชนิดที่ 1(ก) ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าท้ายหมวด 4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งต้องถือว่าเป็นการขายสินค้าตามบัญชีแห่งประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ทวิ(1) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2508 มาตรา 12 อันเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะเกิดมูลกรณีคดีนี้ ผู้ประกอบการค้ามีหน้าที่ต้องเสียภาษีอัตราร้อยละ 5 ของรายรับเทียบตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 2458/2519 ระหว่างบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด โจทก์ กรมสรรพากร กับพวก จำเลย คำพิพากษาฎีกาที่โจทก์อ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดี”

พิพากษายืน

Share