คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยขายที่ดินมือเปล่าและเรือน ส่งมอบแก่โจทก์และรับชำระราคาแล้ว จำเลยเช่าโจทก์ต่อไป จำเลยไม่ชำระค่าเช่า ขอให้ขับไล่ส่งคืนที่ดินและชำระค่าเช่าที่ค้าง ได้ความว่าสัญญาซื้อขายไม่จดทะเบียนเป็นโมฆะ โจทก์ยังไม่ได้ครอบครองที่ดินและเรือนก็พิพากษายกฟ้องเท่านั้นจะให้จำเลยคืนค่าที่ดินนอกเหนือคำฟ้องไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ขายที่ดินมือเปล่าและเรือนแก่จำเลย ศาลชั้นต้นเห็นว่าสัญญาซื้อขายไม่ได้จดทะเบียน เป็นโมฆะ พิพากษาให้จำเลยคืนเงิน 8,000 บาท แก่โจทก์กับดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาข้อที่ให้จำเลยคืนเงิน 8,000 บาท โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์มีเพียงประเด็นเดียวว่า ศาลชั้นต้นพิพากษาเกินคำขอหรือไม่ ศาลฎีกาพิเคราะห์ฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยส่งคืนที่ดินและเรือนพิพาทแก่โจทก์ ให้ขับไล่จำเลยและบริวารไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้อง กับให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง ดังปรากฏตามคำขอท้ายฟ้องข้อ 1 ข้อ 2 เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์และจำเลยตกเป็นโมฆะ และโจทก์ยังไม่ได้เข้าไปครอบครองในที่ดินและเรือนพิพาท ก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องโจทก์เท่านั้น ส่วนเงินค่าซื้อที่ดินและเรือนพิพาทที่รับกันไปแล้วนั้น โจทก์มิได้มีคำขอให้มีการบังคับในชั้นนี้ ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนเงินค่าซื้อที่ดิน 8,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย จึงเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าหรือนอกเหนือจากที่ปรากฏในคำฟ้องขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142 และไม่อยู่ในข่ายข้อยกเว้นที่พิพากษาให้ได้”

พิพากษายืน

Share