คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นเจ้าพนักงาน(ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน) ร่วมกันละเว้นไม่นำปืน(ของกลาง)มีทะเบียนของผู้อื่นที่ตกอยู่กับคนร้ายซึ่งถูกเจ้าทรัพย์กับพวกยิงตาย ส่งพนักงานสอบสวนตามหน้าที่ โดยทุจริต ก็เป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 แล้ว ส่วนที่ยังร่วมกันกล่าวหาว่าเจ้าของปืนกระทำผิดส่งปืนนั้นให้คนร้าย ให้เจ้าของปืนหาเงินมามอบให้จำเลยและจำเลยยังได้ขูดลบเลขทะเบียนปืนเดิมออก ตอกเลขใหม่โดยว่าเพื่อจะช่วยมิให้พนักงานสอบสวนรู้ว่าปืนของกลางเป็นของเจ้าของปืน โดยความจริงจำเลยก็รู้อยู่ว่าเจ้าของปืนมิได้กระทำผิดในเรื่องคนร้ายเอาอาวุธปืนไปเลยนั้น การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เพื่อช่วยเจ้าของปืนมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลงด้วยจึงคงเป็นผิดตามมาตรา 148 และมาตรา 265 อีกเท่านั้น และไม่เป็นผิดตามมาตรา 184 และมาตรา 200

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน จำเลยที่ 2 เป็นกำนันจำเลยที่ 3 เป็นราษฎร สมคบกันกระทำผิด คือบังอาจร่วมกันเอาอาวุธปืนแก๊ปยาวเครื่องหมาย อ.ธ.3/2178 ของนายเกิด พุทธวงศ์ซึ่งได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนแล้ว ซึ่งอยู่ในความครอบครองของคนร้ายที่ถูกนายจันทร์ เลี้ยวกสิกิจ กับพวก ยิงตายอันเป็นของกลางนำมาเก็บไว้ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตไม่นำส่งต่อเจ้าพนักงานแล้วจำเลยร่วมกันใช้ตำแหน่งของจำเลยโดยมิชอบข่มขืนใจและจูงใจนายเกิด พุทธวงศ์ และนางแอ๋นหรือแอ๋ว พุทธวงศ์ให้หาเงินมามอบให้จำเลย 5,000 บาท เพื่อจำเลยจะช่วยนายเกิดมิให้ต้องรับโทษในการกระทำผิดฐานสมคบร่วมกระทำผิดกับคนร้าย โดยหาว่านายเกิดให้อาวุธปืนดังกล่าวแก่คนร้ายไปใช้กระทำผิด แล้วจำเลยไม่จับนายเกิดส่งต่อเจ้าพนักงาน ในการช่วยเหลือนายเกิดดังกล่าวนี้ที่จำเลยสมคบกันแก้ไขปลอมเลขเครื่องหมายปืน อ.ธ.3/2178ดังกล่าวแล้ว เป็นเลข อ.ธ.3/1311 เพื่อไม่ให้ตรงกับเลขทะเบียนอาวุธปืนของนายเกิด แล้วจำเลยได้บังอาจสมคบร่วมกันปลอมเลขเครื่องหมายทะเบียนอาวุธปืนของนายอุ่น พุทธวงศ์ ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและไม่มีเครื่องหมายเลขทะเบียน โดยทำเครื่องหมายเป็นเลขทะเบียนที่ อ.ธ.3/2178 ขึ้นเพื่อให้หลงเชื่อว่าเป็นอาวุธปืนของนายเกิดที่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 184, 157, 200, 264, 265 และ 83

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยทั้งสามกระทำผิดดังฟ้องมีความผิดตามมาตรา 148, 157, 184, 200, 265 และ 83 ลงโทษตามมาตรา 148 ซึ่งเป็นบทหนักฐานเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่วางโทษจำเลยที่ 1, 2 คนละ 6 ปี จำเลยที่ 3 เป็นผู้สมรู้ 4 ปี ลดโทษคนละ 1 ใน 3 ส่วน คงจำคุกจำเลยที่ 1, 2 คนละ 4 ปี จำเลยที่ 3 สองปี แปดเดือน

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา ระหว่างฎีกาจำเลยที่ 1 ถึงแก่กรรม คดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 1 ระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(1)

ศาลฎีกาพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า รุ่งขึ้นจากคืนที่คนร้ายถูกยิงตาย จำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านกำนันได้ไปยังที่เกิดเหตุและไปแวะที่บ้านจำเลยที่ 3 ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุปืนของนายเกิด (ปืนของกลาง) ตกอยู่ที่คนร้าย พวกเจ้าทรัพย์ได้เฝ้าศพคนร้ายไว้และมอบปืนของกลางนั้นให้จำเลยที่ 1 และปรากฏว่าปืนของกลางถูกขูดลบเลขทะเบียนเดิมออกตอกเลขใหม่ เพื่อแสดงว่าไม่ใช่ปืนของนายเกิด เพื่อเป็นการช่วยเหลือนายเกิดที่จะมิให้พนักงานสอบสวนรู้ว่าปืนที่อยู่ที่คนร้ายเป็นปืนของนายเกิด แล้วจำเลยที่ 1 นำปืนที่ตอกเลขใหม่แล้วไปวางไว้ที่คนร้าย ก่อนพนักงานสอบสวนไปถึง เชื่อตามคำพยานโจทก์ว่าจำเลยที่ 1 กระทำการดังกล่าวโดยเรียกร้องเงินจากพวกนายเกิด เชื่อว่าจำเลยที่ 2 รู้ว่าปืนของกลางที่คนร้ายอยู่ในความรักษาของจำเลยที่ 1 และรู้ว่าเป็นปืนของนายเกิด น่าเชื่อว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นเป็นใจร่วมกระทำการกับจำเลยที่ 1 และเรียกเงินส่วนจำเลยที่ 3 เห็นว่า คดีรับฟังลงโทษจำเลยที่ 3 ไม่ได้

สำหรับบทกฎหมายที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 2 มีความผิดนั้น เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่านายเกิดเจ้าของปืนมิได้กระทำความผิดในเรื่องคนร้ายเอาอาวุธปืนของนายเกิดไปและจำเลยก็รู้เช่นนั้นแล้ว ฉะนั้น การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เพื่อจะช่วยนายเกิดมิให้รับโทษหรือให้รับโทษน้อยลงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดตามมาตรา 184, 200 และเห็นว่า กรณีความผิดยังไม่มีการให้เงินหรือสิ่งใดต่อกัน ผลแห่งการกระทำผิดไม่น่าจะเกิดเสียหายร้ายแรง คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยมีประโยชน์ต่อการพิจารณา เห็นสมควรวางโทษและลดโทษให้จำเลยได้รับน้อยลงอีก

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 2 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 157, 265, 83 ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามมาตรา 148 ซึ่งเป็นกระทงหนักและบทหนัก วางโทษจำคุก 5 ปีลดฐานปรานีตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และให้จำหน่ายคดีเกี่ยวกับนายธนูจำเลยที่ 1

Share