แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า เกิดเหตุวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2507 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงซึ่งหมายความว่าเหตุเกิดหลัง 24 น ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2507 ไปแล้วจนถึง 6.00 น.ของวันที่ 13ฯ
ทางพิจารณาพยานโจทก์เบิกความว่าเหตุเกิดเวลาใกล้สว่างของวันแรม 15 ค่ำ เดือน 3 แต่เดือน 3 เป็นเดือนขาด มีเพียงแรม 14 ค่ำฉะนั้น ที่พยานโจทก์เบิกความเช่นนี้จึงหมายความว่าเหตุเกิดเวลาใกล้สว่างของวันขึ้น1 ค่ำเดือน 4 ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2507 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงนั่นเอง
วันเกิดเหตุเป็นสารสำคัญแห่งคดีเมื่อข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้องดังกล่าวแล้วก็ต้องยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 2 (อ้างฎีกาที่ 967/2501)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2507 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยบังอาจมีมีดปลายแหลมเป็นอาวุธ ทำการขู่เข็ญใช้กำลังกายฉุดคร่าพาเอานางสาวแบนไปเพื่อการอนาจาร แล้วข่มขืนกระทำชำเรานางสาวแบน 1 ครั้งจนสำเร็จความใคร่ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 278, 284, 310
จำเลยยื่นคำให้การและยื่นคำร้องขอแก้คำให้การใหม่ ปฏิเสธฟ้องของโจทก์คงรับแต่เพียงว่า ในวันเกิดเหตุนางสาวแบนได้ตามจำเลยมายังบ้านเรือนของจำเลย จำเลยจึงได้จัดการสู่ขอตามประเพณีในวันรุ่งขึ้น ผู้เสียหายเรียกเอาเงินสินสอด 2,000 บาท จำเลยไม่มีให้ จึงถูกกล่าวหาคดีนี้ขึ้น
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยสั่งให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงต่อไป
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาด ข้อเท็จจริงต่อไปตามรูปคดี
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานโจทก์เบิกความว่าผู้เสียหายถูกฉุดคร่าวันแรม 15 ค่ำ เดือน 3 เวลาจวนสว่าง แต่เดือน 3 เป็นเดือนขาดมีสิ้นเดือนเพียงวันแรม 14 ค่ำ ที่พยานเบิกความเป็นวันแรม 15 ค่ำ จึงตรงกับขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 และตรงกับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2507 แต่โจทก์ฟ้องว่า เกิดเหตุวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2507 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง ซึ่งหมายถึงเวลากลางคืนก่อนเที่ยงวัน ก็คือ เกิดเหตุในเวลากลางคืนตอนหลัง 24 น. ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2507 ไปจนถึงประมาณ 6.00 น. ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2507 แต่พยานโจทก์3 ปากเบิกความที่ได้เห็นขณะเกิดเหตุเบิกความฟังได้ว่า เหตุเกิดเมื่อจวนสว่างของแรม 15 ค่ำ เดือน 3 หมายถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2507 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง เป็นคนละวันกับที่ระบุไว้ในฟ้องเป็นสารสำคัญ เมื่อข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 2 ให้ยกฟ้อง นัยฎีกาที่ 967/2501 พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องของโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น