คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องโจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามไม่รับโจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์เห็นดังศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องโจทก์ฎีกาศาลฎีกาสั่งให้รับอุทธรณ์โจทก์ในข้อที่ว่าโจทก์จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 170 วรรคหนึ่งได้หรือไม่เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยแจ้งความเท็จทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพหมิ่นประมาทขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 172, 310, 311, 326 และ 328

ศาลแขวงพระนครใต้ไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีโจทก์ไม่มีมูลพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลชั้นต้นสั่งว่า อุทธรณ์โจทก์ทั้งเรื่องเป็นการเถียงข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ มาตรา 22 จึงไม่รับ

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์เห็นอย่างเดียวกับศาลชั้นต้นให้ยกคำร้อง

โจทก์ฎีกาคำสั่งต่อมา

ศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยตามพยานหลักฐานในสำนวนแล้วข้ออุทธรณ์ของโจทก์ข้ออื่นเป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนในข้อที่โจทก์จะอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 170 วรรค 1 ได้หรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย พิพากษาแก้ให้รับอุทธรณ์ของโจทก์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว

Share