คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6338/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายหนังสือพิพาทโดยตรง อีกทั้งหนังสือพิพาทไม่ใช่หนังสือภาคบังคับตามหลักสูตรของโจทก์ เพียงแต่เป็นหนังสือเสริมการเรียนการสอนเท่านั้น จึงถือได้ว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดซื้อหนังสือพิพาทหากมีการล่าช้าในการจัดซื้อก็ไม่น่าจะทำให้ทางราชการเสียหาย การจัดซื้อหนังสือพิพาทจึงไม่ถูกต้องตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุพ.ศ. 2521 แม้การจัดซื้อดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีตามหนังสือเวียนที่มีถึงส่วนราชการต่าง ๆ หนังสือดังกล่าวก็มิใช่คำสั่ง แต่เป็นเพียงข้อเสนอแนะชักชวนให้สนับสนุนกิจการด้านสหกรณ์กลาโหม จำกัดเท่านั้น ไม่ได้บังคับให้ต้องปฏิบัติตาม ดังนั้น การที่จำเลยที่ 5 ที่ 7 ที่ 8 และที่ 10 ได้ร่วมกันจัดทำบันทึกเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขออนุมัติจัดซื้อหนังสือพิพาท จำเลยที่ 9 ในฐานะรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดได้อนุมัติและแต่งตั้งให้จำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 เป็นกรรมการจัดซื้อหนังสือพิพาทโดยวิธีพิเศษ ซึ่งเป็นการผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุฯ และเป็นการเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยที่ 5 ถึงที่ 10 ย่อมเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสิบร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 321,109.61 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน184,590 บาท ตั้งแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

ก่อนจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ยื่นคำให้การ โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 (ที่ถูกต้องทำเป็นคำบอกกล่าว) ศาลชั้นต้นอนุญาต

จำเลยที่ 5 ถึงที่ 9 ให้การขอให้ยกฟ้อง

จำเลยที่ 10 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 7 ถึงแก่กรรม โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เรียกนางช้อย อินทร์จันทร์ นางสุนันท์ แตงเผือก นายชาญชัย อินทร์จันทร์นางพัชรา สิงห์ป้อง นายโชคเกื้อ อินทร์จันทร์ นายจตุรงค์ อินทร์จันทร์นายสัญญาวัฒน์ (ที่ถูกนายสัญญวัฒน์) อินทร์จันทร์ และนางสาวกอบกุลอินทร์จันทร์ ทายาทของจำเลยที่ 7 เข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์และจำเลยที่ 9 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2523 จำเลยที่ 5 ที่ 7ที่ 8 และที่ 10 ร่วมกันจัดทำบันทึกเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อขออนุมัติจัดซื้อหนังสือคู่มือการเรียนการสอนตามหลักสูตรใหม่โดยวิธีพิเศษจากร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด และจำเลยที่ 9 ในฐานะรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้อนุมัติและแต่งตั้งจำเลยที่ 5ถึงที่ 7 เป็นกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ เมื่อคณะกรรมการจัดซื้อดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ จำเลยที่ 9 เป็นผู้ลงนามในสัญญาซื้อขายมีหนังสือคู่มือการสอนจำนวน 12 รายการ เป็นเงิน 999,600 บาท ทั้งที่การจัดซื้อไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุพ.ศ. 2521 เนื่องจากร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายโดยตรง ทั้งการจัดซื้อหนังสือที่ไม่ใช่แบบเรียน ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้ ราคาหนังสือสูงกว่าความเป็นจริง 184,590 บาท ปัญหาตามฎีกาโจทก์มีเพียงว่าจำเลยที่ 5 ถึงที่ 10 กระทำละเมิดต่อโจทก์ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายหรือไม่ ปัญหานี้โจทก์มีนายสมชิต สัตภูมินทร์ เบิกความว่าพยานเป็นผู้สอบสวนคดีนี้ ตามเอกสารหมาย จ.14 พยานสอบปากคำพยานต่าง ๆ แล้ว สรุปว่า ร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด ไม่มีฐานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ และร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด ไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายโดยตรง การจัดซื้อของจำเลยที่ 5 ถึงที่ 10เป็นการจัดซื้อโดยไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน เพราะหนังสือที่ซื้อไม่ใช่แบบเรียนการจัดซื้อไม่ถูกต้องตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2521 ตามเอกสารหมาย จ.15 นายศารทูล วรรธนวินิจเบิกความว่า การจัดซื้อวิธีพิเศษจะจัดซื้อได้ต้องจัดซื้อจากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจเท่านั้น เห็นว่า ร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายหนังสือพิพาทโดยตรง อีกทั้งหนังสือพิพาทไม่ใช่หนังสือภาคบังคับตามหลักสูตรของโจทก์เพียงแต่เป็นหนังสือเสริมการเรียนการสอนเท่านั้น จึงถือได้ว่าไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดซื้อหนังสือพิพาท หากมีการล่าช้าในการจัดซื้อก็ไม่น่าจะทำให้ทางราชการเสียหาย ที่จำเลยที่ 5ถึงที่ 10 ต่อสู้ว่าการจัดซื้อเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีตามหนังสือเวียนที่มีถึงส่วนราชการต่าง ๆ ตามเอกสารหมาย ล.2 ตามหนังสือของอธิบดีกรมการปกครองเอกสารหมาย ป.ล.1 และตามหนังสือเอกสารหมาย ล.8 นั้น เห็นว่า หนังสือดังกล่าวมิใช่คำสั่ง แต่เป็นเพียงข้อเสนอแนะชักชวนให้สนับสนุนกิจการร้านสหกรณ์กลาโหม จำกัด เท่านั้นไม่ได้บังคับให้ต้องปฏิบัติตาม การที่จำเลยที่ 5 ที่ 7 ที่ 8 และที่ 10ได้ร่วมกันจัดทำบันทึกเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อขออนุมัติจัดซื้อหนังสือพิพาท จำเลยที่ 9 ในฐานะรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้อนุมัติและแต่งตั้งให้จำเลยที่ 5 ถึงที่ 7 เป็นกรรมการจัดซื้อหนังสือพิพาทโดยวิธีพิเศษ ซึ่งเป็นการผิดระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2521 ข้อ 18(3)(6) ตามเอกสารหมาย จ.15และเป็นการเสียหายแก่โจทก์ การกระทำของจำเลยที่ 5 ถึงที่ 10 ย่อมเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 5 ถึงที่10 ฟังไม่ขึ้น ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น”

พิพากษากลับ ให้จำเลยที่ 5 ถึงที่ 10 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน184,590 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 30ธันวาคม 2523 จนถึงวันฟ้อง (แต่ต้องไม่เกิน 136,519.61 บาท) และนับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

Share