คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6241/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทฯ มาตรา 4บัญญัตินิยามคำว่า “ขาย” ให้หมายความรวมถึงการมีไว้เพื่อขายด้วย การขายหรือมีไว้เพื่อขายในวาระเดียวกันตามพระราชบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นความผิดอย่างเดียวกัน แม้ความผิดฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ไว้ในครอบครองเพื่อขายอันเป็นความผิดตามมาตรา 62 วรรคหนึ่ง,106 วรรคหนึ่งส่วนการขายเป็นความผิดตามมาตรา 13 วรรคหนึ่ง,89 ก็ตาม ก็หาทำให้ความผิดดังกล่าวกลับเป็นความผิดต่างกรรมกันไม่ ดังนั้น ผู้ที่มีวัตถุออกฤทธิ์เอ็มดีอีไว้เพื่อขายแล้วขายไปบางส่วนจึงคงมีความผิดฐานขายเพียงสถานเดียว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันกล่าวคือ จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อขายซึ่งเอ็มดีอี อันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 จำนวน 21 เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 1.716 กรัมอันเป็นจำนวนเกินปริมาณที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดไว้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยขายเอ็มดีอีดังกล่าว 1 เม็ดไม่ปรากฏน้ำหนักให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยได้พร้อมเอ็มดีอี 21 เม็ด และธนบัตรฉบับละ 500 บาท1 ฉบับ ฉบับละ 100 บาท 1 ฉบับ เป็นของกลาง เอ็มดีอีของกลางหมดไปในการตรวจวิเคราะห์ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 6, 13, 62, 89, 106 ทวิ

จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่ามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในครอบครองเพื่อเสพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 วรรคหนึ่ง,89, 106 ทวิ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานมีเอ็มดีอีไว้ในครอบครองเพื่อขาย ลงโทษจำคุก 5 ปีฐานขายเอ็มดีอี ลงโทษจำคุก 5 ปี รวมลงโทษจำคุก 10 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษจำคุก 6 ปี 8 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานขายวัตถุที่ออกฤทธิ์ชนิดเอ็มดีอีตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 วรรคหนึ่ง, 89 เพียงกระทงเดียวลงโทษจำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาเฉพาะข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมหรือไม่ การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนว่า สายลับไปล่อซื้อวัตถุออกฤทธิ์เอ็มดีอี 1 เม็ด ราคา 600 บาทจากจำเลยที่ห้องพัก จำเลยนำวัตถุออกฤทธิ์เอ็มดีอี 1 เม็ด มาขายให้แก่สายลับที่หน้าประตูห้อง เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าจับกุมจำเลยได้พร้อมวัตถุออกฤทธิ์เอ็มดีอีอีก 20 เม็ด ในกระเป๋ากางเกงของจำเลย เห็นว่าตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4 บัญญัตินิยามคำว่า “ขาย” ให้หมายความรวมถึงการมีไว้เพื่อขายด้วย การขายหรือมีไว้เพื่อขายในวาระเดียวกันตามพระราชบัญญัติดังกล่าวจึงเป็นความผิดอย่างเดียวกัน ผู้ที่มีวัตถุออกฤทธิ์เอ็มดีอีไว้เพื่อขายแล้วขายไปบางส่วนยังคงมีความผิดฐานขายเพียงสถานเดียว แม้ความผิดฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ไว้ในครอบครองเพื่อขายอันเป็นความผิดตามมาตรา 62 วรรคหนึ่ง, 106 วรรคหนึ่ง ส่วนการขายเป็นความผิดตามมาตรา 13 วรรคหนึ่ง, 89 ก็ตาม ก็หาทำให้ความผิดดังกล่าวกลับเป็นความผิดต่างกรรมกันดังที่โจทก์ฎีกาไม่ ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น แต่เมื่อได้ความว่า เอ็มดีอีของกลางคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 1.716 กรัมการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1ไว้ในครอบครองเกินปริมาณ ตามมาตรา 106 ทวิ อีกมาตราหนึ่งต่างหากจากฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อขายและฐานขาย การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 มิได้ปรับบทว่าจำเลยมีความผิดตามมาตราดังกล่าวด้วยจึงเป็นการไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียใหม่ให้ถูกต้อง”

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 วรรคหนึ่ง,62 วรรคหนึ่ง, 89, 106 ทวิ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ซึ่งแต่ละบทมีระวางโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานขายวัตถุออกฤทธิ์เอ็มดีอีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9

Share