คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกที่นา กระบือ และเงินที่โจทก์ทดรองจ่ายไป รวมกันทั้งสิ้นเป็นเงิน 3,800 บาท และขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่นาพิพาทเป็นของโจทก์ คำขอนอกนั้นให้ยก จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ว่านาพิพาทเป็นของจำเลยศาลอุทธรณ์ฟังว่านาพิพาทเป็นของจำเลย จึงพิพากษาแก้ ให้ยกคำขอของโจทก์ที่เกี่ยวกับนาพิพาทด้วย กรณีเช่นนี้ถือว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าที่นาพิพาทและกระบือ 3 ตัวราคารวมกัน 1,800 บาท เป็นของโจทก์ ให้ขับไล่จำเลยกับบริวารออกไปจากนาพิพาท และให้จำเลยส่งกระบือ 3 ตัวให้โจทก์ กับเรียกเงินที่โจทก์ได้จ่ายทดรองไป 2,000 บาทด้วย

จำเลยต่อสู้ว่า นาพิพาทเป็นของจำเลยโจทก์ไม่เคยจ่ายเงินทดรองให้จำเลย

ศาลชั้นต้นฟังว่า นาพิพาทเป็นของโจทก์ให้จำเลยออกไป ห้ามเกี่ยวข้อง คำขอนอกนั้นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์ว่านาพิพาทเป็นของจำเลย

ศาลอุทธรณ์ฟังว่านาพิพาทเป็นของจำเลย จึงพิพากษาแก้ ให้ยกคำขอของโจทก์ที่เกี่ยวกับนาพิพาทด้วย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นมากฎีกาในข้อเท็จจริงได้ แล้วฟังข้อเท็จจริงว่านาพิพาทเป็นของจำเลยพิพากษายืน

Share