แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยนำสลากกินแบ่งซึ่งจำเลยรู้ว่าปลอมไปขอขึ้นเงินกับนายแก้ว นายแก้วสงสัยว่าปลอมจึงไม่รับให้ไปขึ้นเงินกับกองสลากกินแบ่งนายแก้วได้พาจำเลยไปยื่นคำร้องขอรับเงินที่กองสลากกินแบ่ง เจ้าหน้าที่ตรวจเห็นแล้วว่าเป็นสลากปลอมจึงไม่จ่ายเงินให้จำเลยถือว่าจำเลยได้นำสลากปลอมไปใช้ต่อนายแก้ว และกองสลากกินแบ่งเพื่อขอรับเงินแล้วการกระทำของจำเลยจึงบรรลุผลฐานใช้เอกสารปลอมแล้ว ไม่ใช่เป็นเพียงฐานพยายาม
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,265และ268 มิได้ฟ้องว่าจำเลยได้นำสลากกินแบ่งปลอมซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไปใช้ ทั้งมิได้ขอให้ลงโทษตามมาตรา 266 ด้วย และสลากกินแบ่งก็เป็นเพียงเอกสารสิทธิเท่านั้นหาใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไม่ฉะนั้น ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 266 จึงไม่ถูกต้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลเลขที่ 486844หนึ่งเสี้ยว อันเป็นเอกสารสิทธิ์ซึ่งถูกลบเลข 4 ในหลักสิบออกเอาเลข 6 ของเลขสลากกินแบ่งฉบับอื่นปิดลงไปแทนเพื่อให้ตรงกับเลขสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 4 ในงวดเดียวกันมีมูลค่า 2,500 บาทให้นายแก้ว แซ่ลี้ นำไปขอรับเงินรางวัลที่ 4 จากสำนักงานสลากกินแบ่งของรัฐบาล โดยจำเลยรู้ว่าสลากกินแบ่งดังกล่าวได้ถูกปลอมเลขเพื่อให้ผู้ใดผู้หนึ่งหลงเชื่อว่าเป็นสลากกินแบ่งที่แท้จริงโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น นายแก้วได้นำสลากฉบับดังกล่าวไปขอรับเงินจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสลากกินแบ่งหากแต่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าเลขสลากถูกปลอม จึงยังมิทันเกิดความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265, 268, 84
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 266 ให้จำคุก 2 ปี จำเลยเป็นเด็กอายุเพียง 18 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จำเลยฎีกาได้เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายคดีนี้ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้นำสลากกินแบ่งดังกล่าวหนึ่งเสี้ยวซึ่งจำเลยรู้แล้วว่าเป็นสลากปลอมไปขอขึ้นเงินกับนายแก้วนายแก้วสงสัยว่าจะเป็นสลากปลอม นายแก้วไม่รับ ให้ไปขึ้นเงินกับกองสลากกินแบ่ง นายแก้วได้พาจำเลยไปยื่นคำร้องขอรับเงินที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตรวจแล้วเห็นว่าเป็นสลากปลอมจึงไม่จ่ายเงินให้จำเลย ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยได้นำสลากปลอมดังกล่าวไปใช้ต่อนายแก้ว และกองสลากกินแบ่งเพื่อขอรับเงินแล้ว หากแต่กองสลากกินแบ่งเห็นว่าเป็นสลากปลอม จึงไม่จ่ายเงินให้เท่านั้นการกระทำของจำเลยจึงบรรลุผลฐานใช้เอกสารปลอมแล้ว ฎีกาจำเลยที่ว่าการกระทำของจำเลยเป็นผิดเพียงฐานพยายามจึงฟังไม่ขึ้น
ส่วนข้อที่จำเลยฎีกาว่า คดีนี้โจทก์มิได้ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266 แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์กลับลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 266 จึงเป็นการลงโทษจำเลยเกินคำขอ ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้นำสลากกินแบ่งอันเป็นเอกสารสิทธิและเป็นเอกสารปลอมไปใช้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 265 และ 268 เท่านั้น มิได้ฟ้องว่าจำเลยได้นำสลากกินแบ่งดังกล่าวซึ่งเป็นเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไปใช้ ทั้งมิได้ขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 266 ด้วยทั้งสลากกินแบ่งดังกล่าวก็เป็นเพียงเอกสารสิทธิเท่านั้น หาใช่เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการไม่ ฉะนั้น ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 266 จึงไม่ถูกต้อง
พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268ประกอบด้วยมาตรา 265 ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน จำเลยเป็นเด็กอายุเพียง 18 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้ 1 ใน 3 คงให้จำคุก 1 ปี ของกลางริบ