แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ได้มอบนาให้จำเลยครอบครองแทนการชำระหนี้เงินกู้ดังนี้ การครอบครองของโจทก์ย่อมสิ้นสุดลงตามมาตรา 1377 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จำเลยจึงไม่จำต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองต่อโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 แต่อย่างใด
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าเมื่อประมาณ 7-8 ปีมานี้ โจทก์กู้เงินจำเลย 5,000 บาท ได้มอบนาเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ราคา 10,000 บาทให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ครั้นเมื่อประมาณ 2-3 ปีมานี้ โจทก์ขอไถ่ถอนที่นารายนี้ จำเลยขอผัด ครบกำหนดโจทก์ขอไถ่ถอนอีกแต่จำเลยไม่ยอม ขอให้พิพากษาบังคับให้จำเลยรับเงิน 5,000 บาทแล้วให้จำเลยส่งมอบที่นาของโจทก์
จำเลยให้การว่าเดิมนาพิพาทเป็นของโจทก์ โจทก์กู้เงินจำเลยไป 5,000 บาท เมื่อ พ.ศ. 2494 แต่โจทก์ไม่มีเงินคืนให้จำเลย โจทก์ได้มอบนาพิพาทให้จำเลยเป็นการชำระหนี้ โจทก์ได้สละสิทธิครอบครองให้จำเลย และจำเลยได้ครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของมาเป็นเวลา 10 ปีเศษแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเชื่อว่าโจทก์กู้เงินจำเลย 5,000 บาท มอบนาพิพาทให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย แล้วโจทก์ได้สละสิทธิการครอบครองให้จำเลยโดยตีใช้หนี้แทนเงินกู้ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลล่าง และเห็นว่าพยานจำเลยมีน้ำหนักน่าเชื่อดีกว่าพยานโจทก์ จึงฟังว่าโจทก์ได้มอบนาพิพาทให้จำเลยแทนการชำระหนี้เงินกู้สมดังข้อต่อสู้ของจำเลย ในข้อที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยนำสืบรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวให้โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีเจตนายึดถือทรัพย์สินแทนโจทก์ต่อไปตาม ป.พ.พ.มาตรา 1381 เห็นว่า เมื่อฟังข้อเท็จจริงว่าต่อมาโจทก์ได้มอบนาให้จำเลยครอบครองแทนการชำระหนี้เงินกู้ การครอบครองของโจทก์ย่อมสิ้นสุดลงตามมาตรา1377 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จำเลยจึงไม่ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือครอบครองต่อโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 แต่อย่างใด
พิพากษายืน