แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีอาญาเมื่อปรากฏว่า จำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้แต่ในชั้นสืบพยานจำเลยตัวจำเลยเข้าเบิกความปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิด ก็ถือได้ว่าจำเลยให้การปฏิเสธ
ในกรณีที่ศาลมิได้สอบถามคำให้การต่อสู้คดีของจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 นั้นกฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าจะมีผลอย่างไรแต่ตามหลักกฎหมายจำเลยจะให้การเมื่อใดหรือให้การใหม่กลับคำให้การเดิมก็ได้ซึ่งจะเห็นได้ว่าการสอบถามคำให้การเป็นแต่เพียงเพื่อได้ทราบประเด็นเบื้องต้นแห่งคดีเท่าที่จะทำได้ แต่คำให้การของจำเลยตามที่ศาลสอบถามนั้น จำเลยจะให้การเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ได้ดังนี้แม้ศาลมิได้สอบถามคำให้การจำเลยไว้แต่ต้นก็ไม่ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเสียไป หรือจำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสอบถามคำให้การจำเลยอีก
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ล้วงกระเป๋าเสื้อลักเอาธนบัตรฉบับละสิบบาทของนางแดง วงศ์สุวรรณ ซึ่งกำลังซื้อของไปรวมเป็นเงิน 70 บาท ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 และให้คืนเงินของกลางให้เจ้าทรัพย์ด้วย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี ตามมาตรา 334 คืนเงินของกลางให้เจ้าทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์มีแต่ตัวผู้เสียหายและจำเลยยันกันไม่พอจะลงโทษจำเลยได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ปรากฏว่าจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้แต่ในชั้นสืบพยานจำเลย ตัวจำเลยเข้าเบิกความปฏิเสธว่า มิได้กระทำผิดศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อการพิจารณาชั้นสอบถามคำให้การจำเลยได้ผ่านพ้นมาและต่อมาจำเลยได้เบิกความปฏิเสธความผิด ก็ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธในคดีนี้ เพราะกรณีที่ศาลมิได้สอบถามคำให้การต่อสู้ของจำเลยไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 นั้น กฎหมายมิได้บัญญัติว่าจะมีผลอย่างไรและตามหลักกฎหมายจำเลยจะให้การเมื่อใดหรือให้การใหม่กลับคำให้การเดิมก็ได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าการสอบถามคำให้การเป็นแต่เพียงเพื่อได้ทราบประเด็นเบื้องต้นแห่งคดีเท่าที่จะทำได้แต่คำให้การของจำเลยตามที่ศาลสอบถามนั้น จำเลยจะให้การเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ได้ เฉพาะคดีนี้ เมื่อในที่สุดจำเลยเบิกความปฏิเสธความผิดก็ย่อมถือได้ว่าเท่ากับจำเลยให้การปฏิเสธ ดังนี้ แม้ศาลมิได้สอบถามคำให้การจำเลยไว้แต่ต้นก็ไม่ทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาเสียไปหรือจำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ ศาลชั้นต้นสอบถามคำให้การจำเลยอีก
สำหรับข้อเท็จจริงนั้นฟังว่า จำเลยได้ล้วงกระเป๋าเอาเงินของผู้เสียหายไปจริง พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น