คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 268/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุก 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 203 ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาโดยเปิดเผยเฉพาะแต่ในกรณีที่นัดหรืออนุญาตให้คู่ความมาพร้อมกันหรือมีการสืบพยานไม่มีข้อความแสดงว่าให้ศาลต้องนัดหรือฟังคู่ความมาแถลงด้วยวาจา แต่มีข้อความแสดงว่าศาลจะนัดให้คู่ความมาแถลงด้วยวาจาหรือไม่ก็ได้ ซึ่งเป็นกรณีที่แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควรเป็นเรื่องๆ ไป ฉะนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ไม่นัดให้คู่ความมาแถลงด้วยวาจา จึงไม่ผิดกฎหมาย

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ศาลล่างพิจารณาพิพากษารวมกันมา สำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายนายคุงหมง แซ่เต็ง ได้รับบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษตามมาตรา 297

จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่าป้องกันตัว

สำนวนที่ 2 นายสง่าจำเลยในสำนวนแรกฟ้องว่า จำเลยทั้ง 4กับพวกกลุ้มรุมทำร้ายโจทก์มีบาดเจ็บ โจทก์ใช้มือชกต่อยไปทางจำเลยที่ 1 ทีหนึ่งเพื่อป้องกันตัว ขอให้ลงโทษตามมาตรา 295, 83

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่า นายสง่าจำเลยเจตนาชกต่อยนายคุงหมงได้รับบาดเจ็บสาหัส หาใช่นายคุงหมงกับพวกกลุ้มรุมทำร้ายนายสง่าจำเลยไม่พิพากษาว่านายสง่าผิดตามมาตรา 297(8) จำคุก 6 เดือน ยกฟ้องคดีที่นายสง่าเป็นโจทก์

นายสง่าอุทธรณ์ทั้ง 2 สำนวน

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

นายสง่าฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาเห็นว่า สำนวนแรกศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยเพียง6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 สำนวนหลังศาลล่างยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายที่ว่า ผู้อุทธรณ์ขอแถลงการณ์ด้วยวาจา แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าไม่จำเป็น ให้งดเสีย เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 203 บัญญัติว่า ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาโดยเปิดเผยเฉพาะแต่ในกรณีที่นัดหรืออนุญาตให้คู่ความมาพร้อมกันหรือมีการสืบพยาน จึงเห็นว่า ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่มีข้อความแสดงว่า ให้ศาลต้องนัดหรือต้องฟังคู่ความแถลงด้วยวาจา แต่มีข้อความแสดงว่าศาลจะนัดให้คู่ความมาแถลงด้วยวาจาหรือไม่ก็ได้ ซึ่งเป็นกรณีที่แล้วแต่ศาลเห็นสมควรเป็นเรื่อง ๆ ไป ฉะนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ไม่นัดให้คู่ความมาแถลงด้วยวาจา จึงไม่ผิดกฎหมาย พิพากษายืน

Share