แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้เอาประกันภัยกับผู้รับประกันภัยตกลงกันบันทึกไว้ว่าให้ใช้ใบขับขี่ของกรมตำรวจได้ เมื่อผู้ขับรถยนต์บรรทุกของผู้เอาประกันภัยมีใบขับขี่ของกรมตำรวจ แต่ไม่มีใบอนุญาตของกรมการขนส่งผู้รับประกันภัยจึงยกเงื่อนไขในกรมธรรม์มาปฏิเสธความรับผิดไม่ได้
ย่อยาว
จำเลยรับประกันภัยรถยนต์โดยมีบันทึกในเอกสารหมาย จ.2 ว่า”หมายเหตุอนุญาตให้ใช้ใบขับขี่กรมตำรวจ” รถเกิดอุบัติเหตุ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทน 63,000 บาท กับดอกเบี้ยแก่โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ขณะเกิดเหตุนายสมชาย ตรีตระกูลกิจผู้ขับรถยนต์คันที่โจทก์เอาประกันภัยไว้กับจำเลย มีใบอนุญาตขับรถยนต์ของกรมตำรวจแล้ว ที่จำเลยนำสืบว่าผู้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยจะต้องมีใบอนุญาตขับรถยนต์ของกรมการขนส่งด้วยนั้น ปรากฏว่าจำเลยก็ยินยอมให้นายสมชาย ตรีตระกูลกิจ ผู้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยใช้ใบอนุญาตขับรถยนต์ของกรมตำรวจได้ โดยโจทก์มีนายก้าว หุ่นนิรันดร์ ซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกประกันภัยรถยนต์ของจำเลยและมีหน้าที่ทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์รายนี้กับนายสง่า เจริญสุข พยานโจทก์เบิกความว่า โจทก์กับจำเลยตกลงกันเป็นพิเศษ ให้นายสมชาย ตรีตะกูลกิจ ผู้ขับรถยนต์ที่เอาประกันภัยใช้ใบอนุญาตขับรถยนต์ของกรมตำรวจได้ เพราะปีหนึ่งโจทก์เอารถยนต์ประกันภัยไว้กับจำเลย 80-100 คัน และข้อตกลงดังกล่าว นายก้าว หุ่นนิรันดร์ได้บันทึกไว้ในบัตรประวัติของจำเลยตามเอกสารหมาย จ.2 นายสุวรรณชัยธัธวาลย์ ซึ่งเป็นกรรมการรองผู้จัดการบริษัทจำเลยพยานจำเลยเองก็เบิกความรับว่านายก้าว หุ่นนิรันดร์ มีหน้าที่จัดการเกี่ยวกับรถยนต์ที่เอาประกันภัยได้และลงชื่อในกรมธรรม์โดยไม่ต้องขออนุมัติ ดังนี้นายก้าว หุ่นนิรันดร์ จึงมีอำนาจตกลงกับโจทก์ตามบันทึกเอกสารหมายจ.2 ได้ด้วย ข้อตกลงตามบันทึกเอกสารหมาย จ.2 จึงผูกมัดจำเลยจำเลยยกเงื่อนไขตามกรมธรรม์มาปฎิเสธความรับผิดได้ไม่”
พิพากษายืน