คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้ร่วมรู้คบคิดกับ ศ. และพวกที่จะมาวิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหายโดยมีการวงแผนให้ ศ. ไปทำการ ส่วนจำเลยกับพวกจอดรถอยู่ห่างที่เกิดเหตุเมื่อ ศ. วิ่งราวทรัพย์แล้วก็จะวิ่งหนีมาขึ้นรถยนต์ของจำเลยหลบหนีไป จำเลยจอดรถคอยอยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 80 เมตร และมีศาลาวัดบังมอบไม่เห็นที่เกิดเหตุ การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่ ศ.ในการที่จะไปทำการวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหาย จำเลยเป็นเพียงผู้สนับสนุนการกะรทำผิดตาม มาตรา 86
การที่จำเลยกับพวกจอดรถรับ ศ.ไปเป็นเวลาภายหลังเมื่อศ. วิ่งราวทรัพย์เสร็จแล้ว ที่จอดรถและที่ ศ. วิ่งราวทรัพย์ห่างกันมาก และมองไม่เห็นกันจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมในการวิ่งราวทรัพย์
รถยนต์ของจำเลยมิใช่ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ จึงไม่พึงริบตาม มาตรา 33(1)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันวิ่งราวสร้อยคอทองคำ พระเครื่องและนางกวัก ของนางสวิง แก้วสมบูรณ์ โดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและนำเอาทรัพย์นั้นไป เจ้าพนักงานจับจำเลยกับพวกได้พร้อมรถยนต์ของจำเลยที่ใช้ในการกระทำความผิด ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336, 336 ทวิ, 83 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 13 ริบรถยนต์ของกลาง ให้จำเลยร่วมกับพวกคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่คืนแก่ผู้เสียหาย

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 336, 86 จำคุก 2 ปี 8 เดือน รถยนต์ของกลางจำเลยใช้ในการกระทำความผิดโดยใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้กระทำผิด ให้ริบ

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นเพียงผู้สนับสนุนก่อนการกระทำความผิด รถยนต์ของจำเลยไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ริบไม่ได้พิพากษาแก้ ให้จำเลยร่วมกับพวกคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายรถยนต์ของกลางคืนจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาข้อกฎหมาย

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่า จำเลยได้ร่วมรู้คบคิดกับนายศิริและพวกที่จะมาวิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหายมาก่อน โดยมีการวางแผนให้นายศิริไปทำการ ส่วนจำเลยกับพวกจอดรถอยู่ห่างที่เกิดเหตุ เมื่อนายศิริทำการวิ่งราวทรัพย์แล้วก็จะวิ่งหนีมาขึ้นรถของจำเลยหลบหนีไป สถานที่ที่จำเลยจอดรถคอยอยู่ห่างไกลที่เกิดเหตุประมาณ 80 เมตร มีศาลาวัดบังมองไม่เห็นที่เกิดเหตุ วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่นายศิริในการที่จะไปทำการวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายเท่านั้น จำเลยจึงเป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 การที่จำเลยกับพวกจอดรถรับนายศิริไป เป็นเวลาภายหลังเมื่อนายศิริวิ่งราวทรัพย์เสร็จแล้ว ตรงที่จอดรถและที่นายศิริวิ่งราวทรัพย์ห่างกันมากและมองไม่เห็นกัน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมในการวิ่งราวทรัพย์ ส่วนที่โจทก์ขอให้ริบรถยนต์ของกลางนั้น เห็นว่า รถยนต์ของกลางมิใช่ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ จึงไม่เป็นทรัพย์ที่พึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1)

พิพากษายืน

Share