แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ทำพินัยกรรมได้ทำพินัยกรรมยกหรือมอบที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเฉพาะส่วนของเจ้ามรดกให้แก่จำเลย แต่มีข้อห้ามมิให้จำเลยโอนขายหรือจำหน่ายซึ่งทรัพย์สินดังกล่าว และให้นำรายได้จากทรัพย์นั้นมาแบ่งให้แก่โจทก์และบุคคลอื่น การยกให้ในลักษณะดังกล่าวนี้หามีลักษณะเป็นการมอบกรรมสิทธิ์ให้แก่จำเลยยึดถือหรือครอบครองทรัพย์ไว้แทนผู้รับประโยชน์ตามพินัยกรรมไม่ พินัยกรรมรายนี้จึงมิใช่เป็นการก่อตั้งทรัสต์
ข้อกำหนดพินัยกรรมที่ให้จำเลยจ่ายเงินให้แก่โจทก์เป็นรายเดือนเป็นเพียงให้ทรัพย์ตามข้อกำหนดตกอยู่ในภารติดพัน โดยมีข้อกำหนดห้ามโอนขายหรือจำหน่าย ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1700 กรณีจึงเท่ากับว่าจำเลยได้ทรัพย์ตามพินัยกรรมไปโดยเด็ดขาดข้อกำหนดในพินัยกรรมที่ให้จำเลยจ่ายเงินให้แก่โจทก์โดยห้ามโอนหรือจำหน่ายตัวทรัพย์ จึงไม่มีผลตามกฎหมาย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นทายาทโดยธรรมและโดยพินัยกรรมของคุณหญิงขบวนพรรณสารผู้เป็นมารดาซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้วโดยได้ทำพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ตามพินัยกรรม จำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินรายได้อันเกิดจากทรัพย์สินตามพินัยกรรมให้แก่โจทก์เดือนละ 750 บาททุกเดือนตลอดอายุของโจทก์ แต่เมื่อจำเลยเข้าจัดการมรดกแล้ว จำเลยไม่จ่ายเงินให้แก่โจทก์เลย ขอให้ศาลพิพากษาและบังคับจำเลยชำระเงินที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ย กับให้จ่ายเงินให้แก่โจทก์อีกเดือนละ 750 บาททุกเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าโจทก์จะถึงแก่กรรม
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ พินัยกรรมข้อที่ห้ามจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์โดยมิได้กำหนดตัวบุคคลที่จะเป็นผู้รับทรัพย์สินในเมื่อมีการละเมิดข้อกำหนดห้ามโอนไว้เป็นข้อกำหนดที่เสียเปล่า ถือว่าเป็นอันไม่มีเลย ข้อกำหนดที่ให้จ่ายเงินให้แก่โจทก์เดือนละ 750 บาท ตลอดอายุของโจทก์จึงตกเป็นความเสียเปล่าแห่งพินัยกรรมด้วย ข้อกำหนดตามพินัยกรรมข้อ 1 เป็นเงื่อนไขตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1674 ข้อกำหนดที่ให้จ่ายเงินให้แก่โจทก์เป็นรายเดือนตลอดอายุของโจทก์จึงตกเป็นอันไร้ผล โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินตามข้อกำหนดดังกล่าว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ความเสียเปล่าตามพินัยกรรมมีเฉพาะข้อห้ามโอนหาทำให้ข้อกำหนดที่ให้จ่ายเงินเป็นรายเดือนเสียเปล่าไปด้วยไม่ ยังมีผลติดพันไปกับทรัพย์ตลอดไปจนโจทก์ถึงแก่กรรม คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พินัยกรรมรายนี้มีลักษณะเป็นการก่อตั้งทรัสต์โดยให้จำเลยเป็นทรัสตี ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 419/2491 ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1686 ข้อกำหนดที่ให้จ่ายเงินแก่โจทก์จึงไม่มีผลตามกฎหมาย ไม่อาจบังคับให้จำเลยจ่ายเงินให้แก่โจทก์ตามข้อกำหนดได้ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัยได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่น พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์จำเลยเป็นผู้รับพินัยกรรมของคุณหญิงขบวนพรรณสารซึ่งถึงแก่กรรมแล้ว เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แก่จำเลย แต่ห้ามจำเลยโอนขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินดังกล่าว ตอนหนึ่งระบุว่า รายได้อันเกิดจากสิ่งปลูกสร้างในที่ดินส่วนของเจ้ามรดกให้เอามาแบ่งจ่ายให้แก่โจทก์และบุคคลอื่น ๆ กับสถานสาธารณกุศลด้วยเป็นรายเดือนโจทก์ได้เดือนละ 750 บาทจนตลอดชีวิตโจทก์ และตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกจำเลยไม่ได้จ่ายเงินให้แก่โจทก์ตามข้อกำหนดในพินัยกรรมแล้ววินิจฉัยว่าคุณหญิงขบวนพรรณสารผู้ทำพินัยกรรมได้ทำพินัยกรรมยกหรือมอบที่ดินสี่แปลงเฉพาะส่วนของเจ้ามรดกให้แก่จำเลย แต่มีข้อห้ามมิให้จำเลยโอนขายหรือจำหน่ายซึ่งทรัพย์สินดังกล่าว และให้นำรายได้จากทรัพย์นั้นมาแบ่งให้แก่โจทก์และบุคคลอื่น ซึ่งการยกให้ในลักษณะดังกล่าวนี้หามีลักษณะเป็นการมอบกรรมสิทธิ์ให้แก่จำเลยยึดถือหรือครอบครองทรัพย์ไว้แทนผู้รับประโยชน์ตามพินัยกรรมแต่อย่างใดไม่พินัยกรรมรายนี้จึงมิใช่เป็นการก่อตั้งทรัสต์ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย แล้ววินิจฉัยอีกข้อหนึ่งว่า ข้อกำหนดพินัยกรรมที่ให้จำเลยจ่ายเงินแก่โจทก์เป็นรายเดือนเป็นเพียงให้ทรัพย์ตามข้อกำหนดตกอยู่ในภารติดพันโดยมีข้อกำหนดห้ามโอนขายหรือจำหน่ายซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1700 กรณีจึงเท่ากับว่าจำเลยได้ทรัพย์ตามพินัยกรรมไปโดยเด็ดขาด ข้อกำหนดในพินัยกรรมที่ให้จำเลยจ่ายเงินให้แก่โจทก์โดยห้ามโอนหรือจำหน่ายตัวทรัพย์จึงไม่มีผลตามกฎหมาย ประเด็นเรื่องอายุความไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย
พิพากษายืนในผล