แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้ร้องมอบเรือให้ลูกจ้างควบคุมเรือทำการประมง ลูกจ้างนำเรือไปทำการประมงในที่หวงห้าม ฝ่าฝืน พระราชบัญญัติการประมง ผู้ร้องอ้างว่าไม่รู้เห็นเป็นใจ ในการที่ลูกจ้างทำผิดขอรับเรือคืนมิให้ริบไม่ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้คืนเรือยนต์ที่ศาลพิพากษาให้ริบ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า นายวินัย ญาณวัฒนะ ผู้ร้องเป็นเจ้าของเรือพรสวรรค์ 1 นางกิมลั้ง ญาณวัฒนะ ผู้ร้องเป็นเจ้าของเรือพรสวรรค์ 2 ผู้ร้องทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน เดิมนายสุรศักดิ์ บุญสร้าง จำเลยที่ 1เป็นลูกจ้างผู้ร้องมาก่อนทำหน้าที่เป็นนายท้ายเรือพรสวรรค์ 2 ปัญหาเรื่องผู้ร้องทั้งสองให้นายสุรศักดิ์ บุญสร้าง จำเลยที่ 1 เช่าเรือทั้งสองลำจริงหรือไม่นั้น เห็นว่า เมื่อจำเลยที่ 1 ถูกจับกุมฐานทำการประมงในที่หวงห้ามตามพระราชบัญญัติการประมงจำเลยที่ 1 ให้การในชั้นสอบสวนว่า เรือทั้งสองลำเป็นของผู้ร้อง จำเลยที่ 1 ประกอบอาชีพทางรับจ้างทำประมง โดยเป็นไต้ก๋งหรือนายท้ายเรือพรสวรรค์ 1 และพรสวรรค์ 2 ได้รับมอบหมายจากผู้ร้องให้เป็นผู้ควบคุมเรือดังกล่าวและรับผิดชอบดูแลการทำงานภายในเรือทุกอย่าง จำเลยที่ 1 ไม่ได้อ้างเลยว่าจำเลยที่ 1 เช่าเรือทั้งสองลำจากผู้ร้อง ที่ผู้ร้องทั้งสองอ้างว่า ได้ให้จำเลยที่ 1 เช่าเรือทั้งสองลำไปตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุจึงรับฟังไม่ได้ เมื่อจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างผู้ร้องทั้งสอง ได้รับมอบหมายจากผู้ร้องทั้งสองให้เป็นผู้ควบคุมเรือและรับผิดชอบดูแลการทำงานในเรือทุกอย่าง การที่จำเลยที่ 1 นำเรือไปทำการประมงในที่หวงห้าม เป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติการประมง ผู้ร้องทั้งสองจะอ้างว่าไม่รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 หาได้ไม่ ผู้ร้องทั้งสองจึงไม่มีสิทธิร้องขอคืนเรือของกลาง คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องของผู้ร้องทั้งสองตามคำสั่งศาลชั้นต้น”