แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ โดยมิได้บรรยายว่าจำเลยกับพวกมีอาวุธใช้ในการปล้นทรัพย์ด้วยดังนี้จะลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธไม่ได้เพราะเกินคำขอที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14 และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่เจ้าทรัพย์
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ฟังว่า จำเลยกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสองประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14จำคุกจำเลย 12 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 4,100 บาทแก่เจ้าทรัพย์
จำเลยอุทรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยร่วมกับพวกปล้นทรัพย์ผู้เสียหายจริงดังฟ้อง แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ โดยมิได้บรรยายว่า จำเลยกับพวกมีอาวุธใช้ในการปล้นทรัพย์ด้วย ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ จึงเกินคำขอที่โจทก์กล่าวในฟ้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคแรก ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14 คงจำคุกจำเลย 12 ปี และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 4,100 บาทแก่เจ้าทรัพย์ด้วย