คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถ้าศาลได้สั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ปฏิเสธฟ้องของโจทก์เพื่อให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยใหม่แล้ว โจทก์ก็ต้องฟ้องจำเลยตามข้อหาที่โจทก์ได้เสนอต่อศาลตามฟ้องเดิมของโจทก์เท่านั้น โจทก์จะมาฟ้องจำเลยในข้อหาอื่นหาได้ไม่

ย่อยาว

ได้ความว่า ในคดีก่อนอัยการฟ้องนายเฮง และนายแสวงจำเลยหาว่าฉ้อโกงหรือยักยอกเรือมาด 1 ลำ ราคา 5,500 บาท ของนายบำเพ็ญนายเฮงรับสารภาพฐานฉ้อโกง ส่วนนายแสวง จำเลยปฏิเสธ ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะนายแสวงและให้โจทก์แยกฟ้องนายแสวงจำเลยใหม่ภายใน 10 วันแล้วพิพากษาลงโทษนายเฮง จำเลยในคดีนั้น โจทก์จึงฟ้องนายแสวงจำเลยนี้เข้ามาใหม่โดยอาศัยการสอบสวนเดิมแต่ฟ้องในข้อหาฐานรับของโจรเรือมาคลำเดียวกันนี้

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลทั้งสองให้ยกฟ้องโจทก์

ข้อวินิจฉัยของศาลฎีกามีว่า ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ที่แก้ไขใหม่โดย พระราชบัญญัติแก้ไข เพิ่มเติม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2499 มาตรา11 เป็นเรื่องกฎหมายให้อำนาจศาลเป็นพิเศษไว้ในการที่จะสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ให้การปฏิเสธได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อให้เป็นการสะดวกแก่การพิจารณาคดีที่จะกันไม่ให้จำเลยที่รับสารภาพแล้วต้องยุ่งยากชักช้าลำบากร่วมไปด้วยกับจำเลยที่ให้การปฏิเสธ หรือศาลจะพิจารณาคดีไปทั้ง ๆ ที่จำเลยบางคนรับสารภาพ จำเลยบางคนปฏิเสธก็ได้ ศาลฎีกาเห็นว่า ถ้าศาลได้สั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ปฏิเสธฟ้องของโจทก์เพื่อให้โจทก์แยกฟ้องจำเลยใหม่แล้ว โจทก์ก็ต้องฟ้องจำเลยตามข้อหาที่โจทก์ได้เสนอต่อศาลตามฟ้องเดิมของโจทก์คือ แยกสำนวนฟ้องใหม่ตามข้อหาเดิมเท่านั้น โจทก์จะมาฟ้องจำเลยโดยเปลี่ยนเป็นข้อหาอื่นหาได้ไม่ฟ้องของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องพิพากษายกฟ้อง

Share