คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4577/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขณะที่โจทก์ฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ยังไม่ระงับ โจทก์ยังมีอำนาจฟ้องและการกระทำของจำเลยตามฟ้องก็เป็นความผิด เมื่อสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปภายหลังและความปรากฏขึ้นในอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความเท่านั้นซึ่งจะมีผลให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นระงับไปโดยไม่ต้องพิพากษายกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ประทับฟ้อง

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามฟ้องรวม 2 กระทง ให้จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 1 ปี และปรับจำเลยที่ 1กระทงละ 60,000 บาท เรียงกระทงลงโทษรวมจำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 2 ปี และปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 120,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกจำเลยที่ 2มีกำหนด 1 ปี ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 60,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โดยให้มีผลไปถึงจำเลยที่ 1 ที่มิได้อุทธรณ์ด้วย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์กับจำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่งอันเป็นมูลหนี้ตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับในคดีนี้แล้วย่อมมีผลทำให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในเช็คพิพาททั้งสองฉบับระงับสิ้นไป และโจทก์คงมีสิทธิเรียกร้องตามที่แสดงไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความเท่านั้นทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 หนี้ตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับจึงสิ้นผลผูกพันไปก่อน ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ในคดีนี้ ต้องถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 และสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเสียนั้นไม่ถูกต้อง เพราะขณะที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ยังไม่ระงับโจทก์ยังมีอำนาจฟ้องและการกระทำของจำเลยทั้งสองตามฟ้องก็เป็นความผิด เมื่อสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปภายหลังและความปรากฏขึ้นในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกเสียจากสารบบความเท่านั้น ซึ่งจะมีผลให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นระงับไปโดยไม่ต้องพิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

Share