คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 514/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ทางราชการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างสนามบิน ทางสาธารณะในเขตเวนคืนสิ้นสภาพไป ทหารยามห้ามมิให้โจทก์นำรถเข้าไปขนมันสำปะหลังผ่านที่เวนคืน เพราะโจทก์ไม่ทำตามระเบียบที่กระทรวงกลาโหมวางไว้ เป็นความเสียหายที่โจทก์ก่อขึ้นเองผู้บังคับบัญชาทหารยามไม่ต้องรับผิด

ย่อยาว

ที่ดินของโจทก์ถูกเวนคืน โจทก์นำรถเข้าบรรทุกมันสำปะหลังแต่เข้าไปไม่ได้ มันสำปะหลังของโจทก์เสียหายเพราะทหารยามของจำเลยไม่ให้เข้าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์นำรถยนต์จะไปบรรทุกมันสำปะหลังของโจทก์ที่ขูดไว้ โดยผ่านทางประตูของสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งเป็นเขตทหาร แต่ทหารยามในบังคับบัญชาของจำเลยทั้งสามไม่ยอมให้โจทก์นำรถยนต์ผ่านประตูไปบรรทุกมันสำปะหลัง ทำให้มันสำปะหลังของโจทก์เน่าเสียหาย คดีมีปัญหาว่าจำเลยทั้งสามกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่เห็นว่าที่ดินรอบบริเวณไร่ของโจทก์รวมทั้งไร่ของโจทก์ถูกเวนคืนเพื่อสร้างสนามบินอู่ตะเภาของทางราชการทหาร กรรมสิทธิ์ที่ดินเหล่านั้นย่อมตกเป็นของทางราชการทหาร เฉพาะส่วนที่ดินไร่ของโจทก์ยังตกลงค่าทดแทนกันไม่ได้ ทางราชการทหารยังไม่มีสิทธิเข้าครอบครองไร่ของโจทก์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2497 มาตรา 10 เมื่อได้เวนคืนที่ดินและทางราชการทหารเข้าครอบครองที่ดินแล้ว ทางราชการทหารมีสิทธิใช้ที่ดินนั้นสร้างสนามบินทางขึ้นลงของเครื่องบินและอาคารเกี่ยวกับเรื่องของการบินตามวัตถุประสงค์ที่ออกกฎหมายเวนคืน ทางสาธารณะที่พิพาทอยู่ภายในเขตที่สร้างสนามบินย่อมสิ้นสภาพไป ทางราชการทหารมีสิทธิสร้างรั้วและประตูรอบสนามบินเพื่อความปลอดภัยในการให้เครื่องบินขึ้นลง เพื่อป้องกันมิให้ทรัพย์ของทางราชการต้องสูญหายได้ อีกประการหนึ่งกระทรวงกลาโหมได้วางระเบียบการรักษาความปลอดภัยในเขตทหาร ให้ทุกกองทัพปฏิบัติ สนามบินอู่ตะเภาอยู่ในเขตความรับผิดชอบของกองทัพเรือ จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 ได้กำหนดวิธีการรักษาความปลอดภัยสนามบินอู่ตะเภาโดยเฉพาะ การอนุญาตให้รถยนต์ผ่านเข้าออกทางประตูพิพาทตามระเบียบของกระทรวงกลาโหม ทหารยามที่รักษาการณ์ที่ประตูพิพาทจะต้องปฏิบัติตามระเบียบนั้น โจทก์เป็นบุคคลที่มีความจำเป็นต้องผ่านเข้าออกทางประตูพิพาทตามที่จำเลยทั้งสองสำรวจ โจทก์จึงสามารถนำรถของโจทก์บรรทุกมันสำปะหลังผ่านเข้าออกทางประตูพิพาทได้อันเป็นไปตามระเบียบที่จำเลยทั้งสองวางไว้ ทั้งประตูพิพาทได้สร้างมาตั้งแต่พ.ศ. 2516 ไม่ปรากฏว่าได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ดังฟ้องมาก่อนฉะนั้นการที่โจทก์นำรถยนต์ของนายเพิ่มซึ่งเป็นรถยนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ผ่านประตูพิพาทโดยไม่ได้ขออนุญาตจากจำเลยที่ 3 เป็นกรณีพิเศษ ทหารยามที่รักษาการณ์ที่ประตูพิพาทมีสิทธิห้ามไม่ให้โจทก์นำรถยนต์ผ่านประตูพิพาทได้ไม่เป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์ความเสียหายที่โจทก์ได้รับเกิดจากการกระทำของโจทก์เอง จำเลยทุกคนไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์”

พิพากษายืน

Share