คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 397/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ที่ดินมีโฉนดตกทอดมาทางมรดกผู้รับมรดกครอบครองมาไม่ใช่ได้กรรมสิทธิ์ตาม มาตรา 1382 จึงมาร้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่ได้ เป็นเรื่องขอจดทะเบียนตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 81 โฉนดปลวกกินหมดก็ขอใบแทนตาม มาตรา 60 หากเจ้าพนักงานที่ดินไม่ทำให้ก็เป็นข้อพิพาทไม่ใช่ร้องฝ่ายเดียวเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เดิมที่ดินตามโฉนดที่ 488 มีชื่อนายเลียบ (ไม่มีนามสกุล) เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ เมื่อประมาณ 60 ปีนายเลียบได้ถึงแก่กรรมลง ที่ดินแปลงนี้จึงตกทอดมาถึงนายเล็กซึ่งเป็นบุตรนายเล็กได้เข้าครอบครองที่ดินแปลงนี้ด้วยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนายึดถือเอาเป็นเจ้าของ ต่อมาอีกประมาณ 40 ปี นายเล็กก็ตาย นางเหลืองซึ่งเป็นบุตรครอบครองต่อมาอีกประมาณ 10 ปี นางเหลืองก็ตาย ผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรครอบครองสืบต่อมาจนปัจจุบันขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เห็นว่าตามคำร้องดังกล่าวที่ดินแปลงนี้เป็นมรดกตกทอดกันมาตามลำดับ นับตั้งแต่นายเลียบทวดของผู้ร้องถึงแก่ความตายจนถึงผู้ร้อง ผู้ร้องเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้อยู่โดยไม่มีผู้ใดคัดค้านหรือโต้แย้ง การที่จะได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้นจะต้องเป็นการครอบครองทรัพย์ของผู้อื่น เมื่อทรัพย์สินที่ผู้ร้อง ร้องขอให้ศาลสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์เป็นทรัพย์สินของผู้ร้องอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุจำเป็นขอให้ศาลมีคำสั่งรับรองให้อีก แต่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะต้องไปดำเนินการจดทะเบียนรับมรดกตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 81 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 134 ลงวันที่ 13ธันวาคม พ.ศ. 2515 ข้อ 11 แม้ตามคำร้องคดีนี้จะได้กล่าวไว้ด้วยว่า โฉนดที่ดินแปลงนี้ซึ่งผู้ร้องครอบครองอยู่นั้นถูกปลวกกินจนใช้การไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะต้องไปดำเนินการขอรับใบแทนโฉนดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 60ข้ออ้างว่าเจ้าพนักงานที่ดินไม่อาจทำให้ได้ หากมีข้อโต้แย้งระหว่างโจทก์กับเจ้าพนักงานที่ดิน ก็ชอบที่โจทก์จะดำเนินการไปตามข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์”

พิพากษายืน

Share