แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 บัญญัติห้ามมิให้ทำหรือมีไว้ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ผู้ฝ่าฝืนให้ลงโทษตามมาตรา 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2501 มาตรา 3 วิเคราะห์ศัพท์คำว่า ‘อาวุธปืน’หมายความรวมตลอดถึงอาวุธปืนทุกชนิด ฯลฯ และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้นๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง วิเคราะห์ศัพท์คำว่า ‘เครื่องกระสุนปืน’หมายความรวมตลอดถึงหัวกระสุนโดด กระสุนปราย กระสุนแตก ฯลฯหรือเครื่อง หรือสิ่งสำหรับอัด หรือทำ หรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืน กฎกระทรวงฉบับที่ 3 (พ.ศ.2491) กำหนดว่า ส่วนของอาวุธปืนที่จะกล่าวต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นอาวุธปืน คือลำกล้อง เครื่องลั่นไก หรือส่วนประกอบสำคัญของเครื่องลั่นไกพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2510 มาตรา 3 บัญญัติให้ใช้ความต่อไปนี้แทน มาตรา 72(วรรคหนึ่ง) ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 3 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท (วรรคสอง) ถ้าการฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่งเป็นเพียงกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ. ดังนี้ ข้อกฎหมายที่จะลงโทษจำเลยจึงมี 2 ประการประการแรกเกี่ยวกับอาวุธปืนประการหลังเกี่ยวกับเครื่องกระสุนปืน ซึ่งจะต้องวางโทษตามมาตรา 72วรรคสอง วรรคหนึ่ง ตามลำดับและลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 72 วรรคหนึ่งประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและจำเลยให้การรับสารภาพว่า จำเลยได้บังอาจทำและมีไว้ในความครอบครองซึ่งลำกล้องปืนยาว กล้องโกร่งไกปืน 1 อันซึ่งเป็นส่วนของอาวุธปืนอันถือว่าเป็นอาวุธปืนตามกฎหมายกับแก๊ปกระดาษ 1 ขวดดินปืน 1 ขวด ตะกั่ว 1 แห่ง สำหรับใช้อัดทำประกอบเครื่องกระสุนปืน อันถือว่าเป็นเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 3 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 กฎกระทรวงฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2491) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 ข้อ 1 จำคุก 2 ปี คำรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษลงกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงเหลือโทษจำคุก 1 ปี กับให้ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยอายุยังน้อย เพิ่มกระทำผิดครั้งแรกเพื่อใช้ป้องกันทรัพย์สิน ขอให้ลงโทษในสถานเบา คือ รอการลงโทษหรือปรับ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ความผิดของจำเลยต้องด้วยบทบัญญัติดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษา แต่เมื่อพิเคราะห์มาตรา 72 ซึ่งได้แก้ไขตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 แล้ว เห็นว่า จำเลยควรได้รับโทษตามมาตรา 72 วรรค 2 เพราะจำเลยฝ่าฝืนเพียงกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนดังที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงเท่านั้น ศาลชั้นต้นวางโทษจำเลยสูงเกินไปพิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุก 4 เดือน ลดโทษลงกึ่งหนึ่งเพราะรับสารภาพตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกเพียง 2 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์บรรยายฟ้องแยกออกเป็น2 ประการคือ ฐานทำกับมีอาวุธปืนประการหนึ่ง ฐานทำกับมีเครื่องกระสุนปืนประการหนึ่ง ความผิดฐานทำกับมีลำกล้องปืนยาว 1 ลำกล้องโกร่งไกปืน 1 อัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธปืน ศาลอุทธรณ์ยกบทมาตรามาลงโทษนั้นชอบแล้วส่วนความผิดฐานทำกับมีเครื่องกระสุนปืนเกี่ยวกับของกลางตามฟ้องนั้น หาได้มีกฎกระทรวงบัญญัติไว้ต่างหากไม่ จึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนวัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7 จะต้องรับโทษตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนวรรค 1 หาเข้าวรรค 2 อย่างเดียวไม่ ทั้งตามมาตรา 72 วรรค 1 กำหนดโทษขั้นต่ำไว้ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี ที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษนั้นต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด หาชอบไม่ ขอให้ลงโทษจำเลยดังที่ศาลชั้นต้นพิพากษา
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 บัญญัติห้ามมิให้ทำหรือมีไว้ซึ่งอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ผู้ฝ่าฝืนให้ลงโทษตามมาตรา 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 3 วิเคราะห์ศัพท์คำว่า”อาวุธปืน” หมายความรวมตลอดถึงอาวุธปืนทุกชนิด ฯลฯ และส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืนนั้น ๆ ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญ และได้ระบุไว้ในกฎกระทรวง วิเคราะห์ศัพท์คำว่า “เครื่องกระสุนปืน” หมายความรวมตลอดถึงหัวกระสุนโดด กระสุนปราย กระสุนแตก ฯลฯ หรือเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำ หรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืน กฎกระทรวงฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2491) กำหนดว่าส่วนของอาวุธปืนที่จะกล่าวต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นอาวุธปืน คือ ลำกล้อง เครื่องลั่นไกหรือส่วนประกอบสำคัญของเครื่องลั่นไก พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 บัญญัติให้ใช้ความต่อไปนี้แทนมาตรา 72 (วรรคหนึ่ง) ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 3 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000บาท (วรรค 2) ถ้าการฝ่าฝืนตามวรรคหนึ่งเป็นเพียงกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนี้ ข้อกฎหมายที่จะลงโทษจำเลยจึงมี 2 ประการประการแรกเกี่ยวกับอาวุธปืน ประการหลังเกี่ยวกับเครื่องกระสุนปืนซึ่งจะต้องวางโทษตามมาตรา 72 วรรคสองวรรคหนึ่งตามลำดับ และลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุดตาม มาตรา 72 วรรคหนึ่งประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามบทกฎหมายที่อ้างถึงมาตรา 72 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 72 วรรคหนึ่งประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุกกับลดโทษลงกึ่งหนึ่ง เพราะให้การรับสารภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ลดเหลือโทษจำคุก 1 ปี แต่ให้รอการลงโทษไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ภายในระยะเวลา 3 ปี เพราะของกลางมีเพียงจำนวนน้อย และจำเลยต้องขังมา 2 เดือนเศษแล้ว นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์