แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลย 5 คนเป็นราษฎรแสดงตนว่าเป็นเจ้าพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มีปืนและมีดไปจับราษฎรมา โดยแกล้งกล่าวหาว่าเล่นเบี้ยโบกมาตามทางได้ใช้ปืนและมีดขู่เขาให้ให้เงิน ผู้ถูกจับกลัวจึงให้เงินไป 800 บาทจำเลยจึงปล่อยเขาไป เช่นนี้ นอกจากจำเลยจะผิดฐานปลอมตัวเป็นเจ้าพนักงาน และทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพแล้ว ยังมีผิดฐานทำการปล้นเขาด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2499 เวลากลางวัน จำเลยบังอาจสมคบกันมีปืนและมีดปลอมตัวไปกระทำการเป็นเจ้าพนักงานแกล้งกล่าวหานายคำกับพวกว่าเล่นโบกผิดกฎหมาย และทำการจับกุมนายคำกับพวกไปส่งอำเภอ มาตามทางจำเลยได้ขู่ให้นายคำกับพวกให้เงินจำเลย 800 บาท ทำให้นายคำกับพวกปราศจากอิสระแก่ตน และเพื่อสะดวกแก่การที่จำเลยจะเอาทรัพย์หรือเพื่อให้นายคำกับพวกส่งทรัพย์ จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 127-268 วรรค 3 มาตรา 270(1) และ 63 แต่ให้ลงโทษตาม มาตรา 268 ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุกคนละ 1 ปี ส่วนข้อหาฐานปล้นทรัพย์และคำขอให้คืนทรัพย์ให้ยก
โจทก์ จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยผิดฐานปล้นทรัพย์ให้จำคุกโดยรวมกระทงลงโทษคนละ 10 ปี และให้คืนหรือใช้ทรัพย์ด้วย
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์