คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอุทธรณ์โดยมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นก็ได้รับอุทธรณ์ไว้โดยจำเลยไม่มีเจตนาที่จะไม่วางเงินนั้น และต่อมาก็ได้นำมาวางแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ ศาลฎีกาถือว่าศาลได้ขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมให้แล้วให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกต้นเงิน 2,000 บาท ตามใบยืม กับดอกเบี้ย

จำเลยให้การแก้คดีว่า โจทก์หลอกให้จำเลยเขียนใบยืมตามสำเนาท้ายฟ้อง และต่อสู้ในข้ออื่น ๆ อีก

ศาลจังหวัดเชียงใหม่สอบคู่ความแล้ว สั่งให้งดสืบพยานเสียทั้งสองฝ่าย และพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยให้โจทก์รวม 2,231 บาท 25 สตางค์ กับให้จำเลยเสียดอกเบี้ยในต้นเงิน 2,000 บาท ให้โจทก์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนชำระเสร็จ ให้จำเลยเสียค่าธรรมเนียมแทนโจทก์ กับค่าทนายความ 100 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรากฏว่า จำเลยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้ให้โจทก์ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับฟ้องอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 เห็นว่าอุทธรณ์ของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย พิพากษาให้ยกอุทธรณ์ของจำเลยเสีย

จำเลยฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนและประชุมปรึกษาคดีนี้แล้ว ปรากฏว่าจำเลยยื่นอุทธรณ์โดยมิได้นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ของจำเลยตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บังคับไว้ แต่เรื่องนี้ศาลชั้นต้นได้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้โดยไม่ปรากฏว่า จำเลยมีเจตนาที่จะไม่วางค่าธรรมเนียมดังกล่าว และต่อมาจำเลยก็ได้นำค่าธรรมเนียมนั้นมาวางแล้ว เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงให้ถือว่าศาลได้ขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมให้แก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 แล้ว

โดยเหตุนี้ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาคดีนี้ต่อไปตามรูปความ ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับไป

Share