แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 1 ให้เงินแก่โจทก์ซึ่งเป็นมารดาจำเลยที่ 2 ที่จะแต่งงาน เป็นค่าเรือนหอ โจทก์ยินยอมให้เอาเรือนพิพาทเป็นเรือนหอ เมื่อแต่งงานแล้วจำเลยทั้ง 2 ก็อยู่ในเรือนพิพาท เรือนพิพาทเป็นสินเดิมของจำเลยที่ 1เมื่อจำเลยต้องการจะย้ายที่อยู่ ได้จัดการย้ายเรือนพิพาทไป เช่นนี้ โจทก์จะมาเรียกให้จำเลยคืนเรือนไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเรือนเป็นของโจทก์ นางเทืองจำเลยเป็นบุตรโจทก์สมรสกับนายสิงห์โตจำเลยอาศัยอยู่ในเรือนนี้ ต่อมาจำเลยกับพวกรื้อเอาเรือนไป จึงฟ้องให้จำเลยคืนเรือน
จำเลยต่อสู้ว่า เมื่อจะสมรสนายสิงห์โตเสียค่าสินสอดทองหมั้นและค่าเรือนหอหนึ่งพันบาทให้แก่โจทก์ เมื่อแต่งงานแล้วจำเลยอยู่ในเรือนหอนั้นต่อมาจำเลยต้องการย้ายจึงรื้อเอาไป
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาคดีให้จำเลยคืนเรือนให้โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ให้จำเลยกลับชนะคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรือนพิพาทเปลี่ยนมือจากโจทก์เป็นสินเดิมของจำเลยที่ 1 ไม่ใช่โดยการซื้อขาย แต่โดยโจทก์เรียกค่าเรือนหอไว้จึงพิพากษายืน