คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3051/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ใช้อาวุธมีดบังคับผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 12 ปีเศษให้ไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อข่มขืนกระทำชำเราโดยจำเลยทั้งสองได้คบคิดกันมาก่อน แม้จำเลยแต่ละคนจะผลัดกันเข้ากระทำชำเราผู้เสียหาย ก็เป็นการร่วมกันกระทำความผิด และเมื่อจำเลยที่ 2กระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จแล้ว แม้จะได้ความว่าอวัยวะเพศของจำเลยที่ 1 ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายจำเลยที่ 1ก็ต้องรับผิดเป็นตัวการในการข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 ใช้อาวุธมีดบังคับขู่เข็ญผู้เสียหายให้ไปยังสถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องในอาคารเรียน จากนั้นจำเลยทั้งสองบังคับผู้เสียหายให้นอนที่พื้นห้องเรียนและผลัดเปลี่ยนกันกระทำชำเราผู้เสียหายต่อเนื่องกันเป็นการรุมกันกระทำต่อผู้เสียหาย ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงสมคิดอายุ 12 ปีเศษ ผู้เสียหายคนละ 1 ครั้ง โดยใช้มีดเป็นอาวุธขู่จะฆ่าผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276, 277, 83

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 วรรคสอง, 83 ลงโทษจำเลยทั้งสอง

โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ผู้เสียหายมีอายุไม่ถึง 13 ปี ขณะเกิดเหตุ จำเลยทั้งสองข่มขืนผู้เสียหายจริงแต่ไม่ได้ร่วมกันกระทำผิด ต่างคนต่างกระทำไม่มีลักษณะเป็นการโทรมหญิง การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นเพียงขั้นพยายาม พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก สำหรับจำเลยที่ 1 ประกอบด้วยมาตรา 80 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสอง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองคบคิดกัน โดยจำเลยที่ 2 ใช้อาวุธมีดบังคับผู้เสียหายไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อจำเลยที่ 2 กระทำชำเราผู้เสียหายเสร็จแล้ว จำเลยที่ 2 บังคับไม่ให้ผู้เสียหายลุกขึ้น ให้จำเลยที่ 1 กระทำชำเราผู้เสียหายต่อ แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยที่ 2 ใช้อาวุธมีดบังคับผู้เสียหายไปที่เกิดเหตุเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา จำเลยทั้งสองได้คบคิดกันมาก่อนถึงแม้ว่าจำเลยแต่ละคนจะผลัดกันกระทำชำเราผู้เสียหาย ก็เป็นการร่วมกันกระทำความผิด เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 2 กระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จแล้ว แม้อวัยวะเพศของจำเลยที่ 1 ไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายก็ไม่ใช่ข้อสำคัญ เพราะถึงอย่างไรจำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดเป็นตัวการในการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายร่วมกับจำเลยที่ 2 อยู่แล้ว จำเลยที่ 2 ใช้อาวุธมีดบังคับขู่เข็ญผู้เสียหายโดยบังคับให้นอนที่พื้นห้องเรียน แล้วจำเลยทั้งสองผลัดเปลี่ยนกันกระทำชำเราผู้เสียหายต่อเนื่องกัน เป็นการรุมกันกระทำต่อผู้เสียหาย ถือได้ว่าเป็นการร่วมกันกระทำชำเราผู้เสียหายอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสอง ที่แก้ไขแล้ว

Share