แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เดิมโจทก์เคยฟ้องจำเลยขอให้เปิดทางในที่ดินของจำเลยโดยอ้างว่าเป็นทางภารจำยอม แล้วโจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน โดยจำเลยยอมเปิดทางในที่ดินดังกล่าวกว้าง 2 เมตร 50 เซนติเมตร ยาวตลอดที่ดิน ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันคู่ความทั้งสองฝ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 เมื่อจำเลยได้เปิดทางให้ผ่านที่ดินของจำเลยถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้รับความสะดวกเพราะปากทางแคบไปโจทก์ก็ไม่มีอำนาจมาฟ้องจำเลยขอให้เปิดทางให้กว้างขึ้นไปอีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองเคยฟ้องจำเลยทั้งสองกับนายสมพงศ์เป็นจำเลยขอให้เปิดทางในที่ดินโฉนดเลขที่ 9084 ของจำเลยที่ 2 เพราะเป็นทางภารจำยอมและโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมกันโดยจำเลยยอมเปิดทางให้กว้าง2 เมตร 50 เซนติเมตร ยาวตลอดที่ดิน จำเลยทั้งสองได้ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมแล้ว แต่ปากทางแคบรถยนต์หกล้อและรถยนต์ขนาดเล็กของโจทก์เลี้ยวเข้าทางพิพาทไม่ได้ จึงขอให้จำเลยเปิดปากทางให้กว้างขึ้น
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีสิทธินำคดีนี้ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 48/2518 ของศาลชั้นต้นมาฟ้องจำเลยอีก เป็นฟ้องซ้ำ
ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ทางที่โจทก์ขอให้เปิดใหม่นี้อยู่ติดกับทางเดิมเมื่อโจทก์ได้รับประโยชน์จากการใช้ทางในคดีเดิมแล้ว จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็นในคดีนี้อีก พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อวินิจฉัยในชั้นนี้มีว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เดิมโจทก์ทั้งสองในคดีนี้เคยฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีนี้ขอให้เปิดทางในที่ดินโฉนดเลขที่ 9084 ของจำเลยที่ 2 โดยอ้างว่าเป็นทางภารจำยอมและโจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันโดยจำเลยทั้งสองยอมเปิดทางในที่ดินดังกล่าวกว้าง 2 เมตร 50 เซนติเมตรยาวตลอดที่ดิน ซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมแล้ว คำพิพากษานั้นย่อมผูกพันคู่ความทั้งสองฝ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145เมื่อจำเลยได้เปิดทางให้ผ่านที่ดินของจำเลยถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว แม้โจทก์จะไม่ได้รับความสะดวกเพราะปากทางแคบไปก็ตาม โจทก์ก็จะมาฟ้องจำเลยขอให้เปิดทางให้กว้างขึ้นไปจากเดิมโดยอาศัยเหตุเพียงแต่โจทก์ไม่ได้รับความสะดวกเท่านั้นหาได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน