แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่ารถยนต์หาย แล้วนำรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไปแสดงต่อบริษัทประกันภัย เป็นการกระทำที่มีเจตนาเดียว คือ มุ่งหมายเพื่อให้จะได้เงินจากบริษัทประกันภัยเป็นหลักการกระทำต่าง ๆของจำเลยเป็นเพียงวิธีการเพื่อจะให้ได้รับเงินไปเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 173, 267, 268 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 173 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 173, 267, 268, 91
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173, 267 ให้ลงโทษตามมาตรา 173 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดกระทงหนึ่ง จำคุก 6 เดือน และผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยมาตรา 267 อีกกระทงหนึ่ง แต่จำเลยเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความนั้นเอง จึงให้ลงโทษฐานใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 267จำคุก 6 เดือน รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 12 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะและพินิจของจำเลยแล้ว ไม่สมควรรอการลงโทษ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทหรือไม่ คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่ามีคนร้ายลักรถยนต์ที่จำเลยเช่าซื้อ ให้พนักงานสอบสวนจดข้อความอันเป็นเท็จลงในรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี แล้วนำรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีดังกล่าวไปใช้เป็นพยานหลักฐานขอรับเงินจากบริษัทประกันภัย ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษแต่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมีเจตนาเดียวคือต้องการเบิกเงินจากบริษัทประกันภัยจึงต้องการหลักฐานรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไปแสดงเป็นการกระทำกรรมเดียวนั้น เห็นว่า ที่จำเลยอ้างมาดังกล่าวนั้นน่าจะเป็นความจริง เพราะบริษัทประกันภัยคงจะไม่จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนกรณีรถยนต์หายเป็นเงินจำนวนมากให้แก่ผู้เอาประกันภัยง่าย ๆ โดยเพียงแต่มาแจ้งว่า รถยนต์หาย ดังนั้นผู้เอาประกันภัยย่อมต้องมีหลักฐานมาแสดงประกอบด้วยเพื่อให้บริษัทประกันภัยเชื่อได้ว่ารถยนต์หายจริงก่อนจึงสมควรจะจ่ายเงินซึ่งในกรณีเช่นนี้ วิธีที่ดีที่สุดสำหรับจำเลยที่มีเจตนาทุจริตมุ่งประสงค์จะได้เงินจากบริษัทประกันภัยโดยมิชอบ ก็คือแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่ารถยนต์หายแล้วนำรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีเป็นหลักฐานไปแสดง นอกจากเรื่องนี้แล้วก็มองไม่เห็นว่าจำเลยมีวัตถุประสงค์อื่นอย่างใดในการที่ไปแจ้งความว่ารถยนต์หายเช่นนั้น การที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จว่ารถยนต์หายแล้วนำรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไปแสดงต่อบริษัทประกันภัยเป็นการกระทำที่มีเจตนาเดียว คือ มุ่งหมายเพื่อให้จะได้เงินจากบริษัทประกันภัยเป็นหลัก การกระทำต่าง ๆ ของจำเลยเป็นเพียงวิธีการเพื่อจะให้ได้รับเงินไปเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษให้จำเลย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 173, 267, 268 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 173 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน