คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 491/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยไม่มีอาชีพในทางค้าเสาไม่เคยขออนุญาตตัดฟันไม้ แต่รับจะจัดการตัดเสาอ้างว่ามีโควต้าทำไม้ ผู้เสียหายยอมให้เงิน 3,600 บาท ค่าลูกจ้างและค่าเข็นโดยจำเลยว่าเสาตามที่สั่งตัดไว้ครบแล้ว หลังจากนั้นอีกนานก็ไม่มีเสามา เมื่อถูกจับก็บอกตำรวจว่าหาเสาไม่ได้ แต่กลับปฏิเสธต่อผู้เสียหายว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้รับเงิน พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดฉ้อโกงทรัพย์ของผู้เสียหาย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจเลยบังอาจใช้อุบายหลอกลวงนายพินว่าเป็นพ่อค้าไม้จะขายไม้เสาให้มีไม้เสาอยู่ที่บ้านแล้ว ซึ่งเป็นข้อความเท็จความจริงจำเลยมิได้เป็นพ่อค้าไม้ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ทำไม้ที่บ้านก็ไม่มีเสา โดยเจตนาทุจริตคิดหลอกลวงผู้เสียหาย ๆ ได้มอบเงินให้จำเลย ๓,๖๐๐ บาท ขอให้ลงโทษ
จำเลยต่อสู้ว่าเป็นเพื่อนกับนายพิน ๆ ไปขอให้จ้างตนตัดเสาให้โดยโควต้าชักลากไม้เป็นของนายพิน จำเลยจ้างคนตัดแล้วจึงไปของรับเงินจ่ายให้คนตัด ๓,๖๐๐ บาท และให้ไปตรวจรับไม้ แต่นายพินบอกว่าได้เสาที่อื่นแล้วไม่เอาขอเงินคืน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เพราะเป็นเรื่องแพ่ง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๓๐๔ ให้จำคุก ๓ เดือน และให้ใช้เงิน ๓,๖๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาแล้วทางพิจารณาไม่ได้ความว่าจำเลยมีอาชีพในทางค้าเสาแต่จำเลยก็รับจะจัดการตัดเสาส่งให้แก่ผู้เสียหายโดยอ้างว่าจเำลยมีโควต้าไม้อยู่แล้สดวกทุกอย่าง ต่อมาผู้เสียหายได้ยอมให้เงิน ๑๖๐๐ บาทแก่จำเลยก็เพราะจำเลยไปบอกว่าเสาที่ผู้เสียหายสั่งได้ตัดไว้ครบแล้วอยู่ที่ห้วยอีจิ๋ว จำเลยเอาเงินให้ไปค่าลูกจ้างและค่ารถเข็นเสามาไว้ที่ตำบลเพนียด หลังจากนั้นมานานก็ไม่มีเสามาไว้ที่บ้านจำเลย จำเลยไม่เคยขออนุญาตตัดฟันไม้ เมื่อตำรวจจับจำเลย ๆ ได้บอกตำรวจผู้จับว่าจำเลยหาเสาไม่ได้ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายเตือนจำเลย ๆ กลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องเงินก็ไม่ได้รับ พฤติการณ์ดั่งกล่าวแสดงว่าจำเลยเจตนาทุจริตทำการฉ้อโกงทรัพย์ของผู้เสียหาย
จึงพิพากษายืน.

Share