คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2526/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มูลหนี้เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสามีของผู้ร้อง เป็นการกระทำเฉพาะตัวโดยไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้มีส่วนร่วมรู้เห็นในการกระทำละเมิดต่อโจทก์เลย จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมที่ผู้ร้องจะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 3 ต่อโจทก์หาได้ไม่

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายคุ้มซึ่งเป็นจำเลยที่ 3 และศาลพิพากษาให้แพ้คดี โจทก์ได้นำเจ้าพนักงานศาลยึดที่ดิน 2แปลง อันเป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 3 ผู้ร้องไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยในการทำละเมิดของจำเลยที่ 3 จึงขอให้สั่งให้กันส่วนที่ขายได้จากการขายทอดตลาดให้แก่ผู้ร้องครึ่งหนึ่ง

โจทก์คัดค้านว่า หนี้สินคดีนี้เกิดจากการที่จำเลยได้ประกอบอาชีพเพื่อนำไปเลี้ยงครอบครัว เมื่อมีการเสียหายเกิดขึ้นเพราะการกระทำของจำเลยที่ 3ผู้ร้องจึงย่อมผูกพันรับผิดร่วมด้วย

ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า หนี้เกิดจากการละเมิดของจำเลยที่ 3 ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้รู้เห็นเป็นใจในการละเมิดจึงไม่ใช่หนี้ร่วม พิพากษากลับ ให้กันส่วนเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินให้แก่ผู้ร้องครึ่งหนึ่ง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า ผู้ร้องเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายคุ้มจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 3 ถูกโจทก์ฟ้องฐานกระทำละเมิดต่อโจทก์และเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 3 ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ คดีถึงที่สุดโจทก์จึงได้นำยึดที่ดินซึ่งเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับนายคุ้ม จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสามีจำนวน 2 แปลงตามคำร้องเพื่อนำออกขายทอดตลาดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา ปัญหาวินิจฉัยว่า หนี้ตามคำพิพากษาอันเกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 3 นั้นจะถือว่าเป็นหนี้ร่วมซึ่งผู้ร้องภริยาจะต้องรับผิดร่วมด้วยหรือไม่

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า หนี้ร่วมที่สามีภริยาจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน จะต้องเป็นหนี้ที่สามีภริยาได้ร่วมเป็นลูกหนี้ก่อให้เกิดหนี้ขึ้น หรือเป็นหนี้ที่สามีหรือภริยาก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างสมรส ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 มาตรา 1490 ที่แก้ไขแล้ว แต่กรณีคดีนี้มูลหนี้เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นสามีของผู้ร้องแต่ฝ่ายเดียว เป็นการกระทำเฉพาะตัวโดยไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้มีส่วนร่วมรู้เห็นในการกระทำละเมิดต่อโจทก์นั้นเลย จะถือว่าเป็นหนี้ร่วมที่ผู้ร้องจะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 3 ต่อโจทก์จึงหาได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ผู้ร้องได้รับการกันส่วนของผู้ร้องครึ่งหนึ่งจากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดนั้นชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share