แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เพียงว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด เป็นการแก้ไขเล็กน้อย และยังคงลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละไม่เกิน 5 ปี จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีน 30 หลอดไว้เพื่อจำหน่ายกระทงหนึ่ง และฐานจำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอดอีกกระทงหนึ่ง แม้เฮโรอีนจำนวน 1 หลอดที่จำเลยจำหน่ายไป จะเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกับเฮโรอีน 30 หลอด ที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยก็แยกได้เป็นสองกรรมต่างหากจากกันเป็นสองกระทงความผิด(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1198/2519)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงต่างกรรมต่างวาระกัน คือ มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งเฮโรอีนจำนวน 30 หลอด และจำหน่ายเฮโรอีนจำนวน 1 หลอดแก่ผู้มีชื่อ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนที่มีอยู่นั้น การกระทำเป็นกรรมเดียว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนให้จำคุก 5 ปี
โจทก์อุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายอีกกระทงหนึ่ง
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายอีกกระทงหนึ่ง ให้จำคุก 5 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 10 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เพียงว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด เป็นการแก้ไขเล็กน้อย และยังคงลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละไม่เกิน 5 ปี จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 คงฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวหรือสองกรรม ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีน 30 หลอดไว้เพื่อจำหน่ายกระทงหนึ่ง และฐานจำหน่ายเฮโรอีน 1 หลอด อีกกระทงหนึ่ง แม้เฮโรอีนจำนวน 1 หลอดที่จำเลยจำหน่ายไปจะเป็นเฮโรอีนจำนวนเดียวกับเฮโรอีน 30 หลอดที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยแยกได้เป็นสองกรรมต่างหากจากกันเป็นสองกระทงความผิด ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 1198/2519
พิพากษายืน