คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3069/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่นำเครื่องปรับอากาศส่งมอบให้แก่จำเลยเป็นเวลานานถึง 10 เดือน 5 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานเกินควร ทั้งสถานที่ที่ติดตั้งเป็นสถาบันมะเร็งแห่งชาติที่ตั้งขึ้นเพื่อบำบัดทุกข์แก่ผู้เจ็บป่วยทั่วไปนับว่ามีความสำคัญมากทำให้งานของสถาบันต้องหยุดชะงักไป ไม่อาจดำเนินงานไปได้ จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะลดเบี้ยปรับลงอีก

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ผิดสัญญา จะต้องเสียค่าปรับแก่จำเลยตามสัญญาแต่ค่าปรับสูงเกินส่วน ให้ปรับได้เพียง 150,000 บาท พิพากษาให้จำเลยใช้เงินราคาที่ค้าง 342,150 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์กำหนดเบี้ยปรับให้จำเลย 300,000 บาท พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้เงิน 192,150 บาทพร้อมดอกเบี้ย โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่าโจทก์ได้ทำสัญญาขายเครื่องปรับอากาศให้จำเลย โจทก์ส่งมอบงานให้คณะกรรมการตรวจรับเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามสัญญาไป 10 เดือน 5 วัน จำเลยถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจึงปรับโจทก์ร้อยละ 5 ต่อเดือนของราคาค่าจ้างตามสัญญาเอกสารหมาย จ.4 จำเลยจึงได้ชำระเงินให้โจทก์ไปเพียง 572,850 บาทโดยหักค่าปรับไว้แล้ว ปัญหาชั้นฎีกามีว่าโจทก์ควรได้รับชำระเงินค่าเครื่องปรับอากาศจากจำเลยมากน้อยเพียงใด ข้อนี้โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์กำหนดเบี้ยปรับให้จำเลยสูงเกินไปนั้น เห็นว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่นำเครื่องปรับอากาศส่งมอบให้แก่จำเลยเป็นเวลานานถึง 10 เดือน 5 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานเกินควร ทั้งสถานที่ที่ติดตั้งเป็นสถาบันมะเร็งแห่งชาติเป็นหน่วยราชการที่ตั้งขึ้นเพื่อบำบัดทุกข์แก่ผู้เจ็บป่วยทั่วไปนับว่ามีความสำคัญมากทำให้งานของสถาบันดังกล่าวต้องหยุดชะงักไปไม่อาจดำเนินงานไปได้ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดเบี้ยปรับให้แก่จำเลย 300,000 บาท เป็นการเหมาะแก่รูปคดีแล้ว”

พิพากษายืน

Share