คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

แม้ขณะมอบอำนาจโจทก์จะอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่หนังสือมอบอำนาจ ระบุว่าทำที่กรุงเทพมหานครก็ตามก็เป็นเรื่องสถานที่มอบอำนาจคลาดเคลื่อน ไปเท่านั้นยังไม่พอฟังว่าโจทก์มิได้ทำหนังสือมอบอำนาจ
ทนายโจทก์ส่งหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองถึงจำเลยทางไปรษณีย์ ลงทะเบียนตอบรับตามตำบลที่อยู่ที่เป็นบ้านของจำเลยซึ่งระบุไว้ในสัญญา จำนอง และสามีจำเลยได้ลงชื่อรับไว้แล้วนั้น ถือได้ว่าโจทก์ได้ส่งหนังสือ บอกกล่าวบังคับจำนองไปถึงจำเลยโดยชอบแล้ว
โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้จำนอง 100,000 บาทกับ ดอกเบี้ยภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับหนังสือ แต่จำเลยก็มิได้ชำระโจทก์ จึงนำคดีมาฟ้องหลังจากวันที่จำเลยรับหนังสือ 27 วัน ประกอบกับจำเลย ผิดนัดไม่ชำระดอกเบี้ยเป็นเวลาปีเศษ ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์บอกกล่าวให้จำเลย ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควรแล้ว

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 400,000 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย โดยหักดอกเบี้ยจำนวน 18,000 บาทที่จำเลยชำระแล้วบางส่วนออกหากไม่ชำระให้เอาที่ดินจำนองขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้แก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานของโจทก์จำเลยที่ศาลชั้นต้นฟังเป็นยุติโดยคู่ความมิได้โต้แย้งว่า เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2513 จำเลยจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 1766 ตำบลคลองสามประเวศ (คลองสาม) อำเภอลาดกระบัง (แสนแสบ) กรุงเทพมหานครไว้กับโจทก์ทั้งสี่เป็นเงิน 400,000 บาท สัญญาให้ดอกเบี้ยชั่งละหนึ่งบาทต่อเดือน กำหนดชำระดอกเบี้ยปีละครั้ง ครั้งสุดท้ายจำเลยชำระดอกเบี้ยให้โจทก์เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2516 เป็นเงิน 18,000 บาท อันเป็นการชำระดอกเบี้ยบางส่วนของงวดประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2516 ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2517 ส่วนดอกเบี้ยงวดก่อนหน้านั้นจำเลยชำระเรียบร้อยแล้ว

จำเลยฎีกาดังนี้คือ

โจทก์มิได้มอบอำนาจให้ทนายโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแทนปัญหาข้อนี้จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว

หนังสือมอบอำนาจให้นางแสงเดือนเป็นโจทก์ฟ้องคดีนั้น นางแสงเดือนว่า โจทก์ที่ 2 ทำหนังสือมอบอำนาจให้ตนจากประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ตรงกับข้อความในหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องซึ่งระบุว่าทำ ณ ที่บ้านเลขที่ 1 ซอยทิพย์อารี หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวจึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้นั้น ข้อเท็จจริงได้ความจากนางแสงเดือนว่า โจทก์ทั้งสี่มอบอำนาจให้นางแสงเดือนดำเนินคดีแทนตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3ถึง จ.6 จำเลยมิได้นำสืบหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไม่ใช่ของโจทก์ แม้ข้อเท็จจริงจะฟังว่าขณะมอบอำนาจโจทก์ที่ 2 อยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่หนังสือมอบอำนาจระบุว่าทำที่บ้านเลขที่ 1 ซอยทิพย์อารี กรุงเทพมหานครคงได้ความว่าสถานที่มอบอำนาจคลาดเคลื่อนไปเท่านั้น ยังไม่พอฟังว่าโจทก์ที่ 2 มิได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้แก่นางแสงเดือน

โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองแล้วหรือไม่ ได้ความจากพยานหลักฐานของโจทก์ว่า นายสนิททนายโจทก์ส่งหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองถึงจำเลยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ นายคนึงสามีจำเลยลงชื่อรับไว้ตามเอกสารหมาย จ.10 หนังสือบอกกล่าวส่งถึงจำเลยที่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 4 ตำบลคลองสาม อำเภอลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่อยู่ของจำเลยตามที่ระบุไว้ในหนังสือสัญญาจำนองเอกสารหมาย จ.7 แสดงว่า โจทก์ได้ส่งหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไปถึงจำเลยโดยชอบแล้ว

ข้อความที่นางแสงเดือนเบิกความว่าจำเลยค้างชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 12 พฤษภาคม 2515 จนถึงวันฟ้องขัดแย้งกับคำของนางฮกเฮงมารดาโจทก์ที่ว่าเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2516 นางฮกเฮงยังได้รับดอกเบี้ยจากจำเลยอยู่นั้น เป็นเรื่องพยานโจทก์เบิกความแตกต่างกันในเรื่องดอกเบี้ยหาใช่เรื่องการใช้สิทธิฟ้องคดีนี้โดยไม่สุจริตดังจำเลยฎีกาไม่

ปัญหาสุดท้ายจำเลยฎีกาว่า หนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองของโจทก์ โจทก์ไม่ให้ระยะเวลาอันสมควรแก่จำเลยในการชำระหนี้หรือไม่นั้นได้ความว่าหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองของโจทก์ลงวันที่ 3 มกราคม 2518 กำหนดเวลาให้จำเลยชำระหนี้ภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับหนังสือสามีจำเลยรับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองไว้แทนจำเลยในวันรุ่งขึ้น พ้นกำหนดเวลา 15 วัน ตามหนังสือบอกกล่าวจำเลยก็ไม่ชำระ โจทก์นำคดีมาฟ้องเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2518 หลังจากวันรับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองเป็นเวลา 27 วันจำเลยก็ไม่ชำระ ประกอบกับจำเลยผิดนัดไม่ชำระดอกเบี้ยเป็นเวลาปีเศษ ดังนี้ถือได้ว่าโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควรตามความในมาตรา 728 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว”

พิพากษายืน

Share