แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ฎีกาว่าบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของ ส. พยานโจทก์รับฟังไม่ได้เพราะเป็นพยานบอกเล่าและเป็นคำบอกเล่าของผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวข้องในเรื่องเดียวกับที่จำเลยถูกฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายและไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านี้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยขายวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและมีวัตถุดังกล่าวเพื่อขาย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13, 89, 116 เป็นความผิดสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ชั้นสอบสวนให้การรับสารภาพลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าพยานโจทก์ขัดต่อเหตุผลไม่มีน้ำหนักและเป็นที่สงสัยรับฟังไม่ได้นั้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลล่างให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินกระทงละห้าปี ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ที่จำเลยฎีกาว่า บันทึกคำให้การชั้นสอบสวนของนายสมพยานโจทก์รับฟังไม่ได้ เพราะเป็นพยานบอกเล่าและเป็นคำบอกเล่าของผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเกี่ยวข้องในเรื่องเดียวกับที่จำเลยถูกฟ้องเป็นคดีนี้นั้น เห็นว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมายไม่ต้องห้ามฎีกา และปัญหานี้ศาลฎีกาเห็นว่า ไม่มีกฎหมายห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านี้”
พิพากษายืน