แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยเอาที่นาของจำเลยมาแลกกันทำกินกับที่พิพาทของโจทก์ แม้จำเลยจะครอบครองทำกินในที่พิพาทมาช้านานเพียงใดจำเลยก็ไม่ได้สิทธิครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาทเพราะการครอบครองของจำเลยเป็นการครอบครองแทนและโดยอาศัยสิทธิของโจทก์
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่าเดิมที่พิพาทเป็นของโจทก์ เมื่อ พ.ศ. 2519 โจทก์ได้ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3) และได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วตามเอกสารหมาย จ.1 ขณะเกิดเหตุจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทคดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า จำเลยครอบครองที่พิพาทโดยซื้อจากโจทก์ หรือเอาที่ดินของจำเลยไปแลกกันทำกินกับที่ดินโจทก์ ฯลฯ
“รูปคดีมีเหตุผลฟังได้ตามที่โจทก์นำสืบว่า จำเลยเอาที่นาของจำเลยมาแลกกันทำกินกับที่พิพาทของโจทก์ โจทก์หาได้ขายที่พิพาทให้จำเลยไม่แม้จำเลยจะครอบครองทำกินในที่พิพาทมาช้านานเพียงใด จำเลยก็ไม่ได้สิทธิครอบครองเป็นเจ้าของที่พิพาท เพราะการครอบครองของจำเลยเป็นการครอบครองแทนและโดยอาศัยสิทธิของโจทก์เท่านั้น”
พิพากษายืน