แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ฟ้องขับไล่ บรรยายฟ้องตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีคนบุกเบิกป่าเสม็ดทำเป็นนา โจทก์ก็เข้าแผ้วถางทำประโยชน์มา 9 ปี เท่ากับกล่าวว่าโจทก์เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิครอบครอง ไม่เคลือบคลุม
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาขับไล่จำเลย โจทก์มีสิทธิครอบครองที่พิพาท จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “สำหรับประเด็นข้อแรก จำเลยทั้งสองฎีกาว่า โจทก์บรรยายคำฟ้องกำกวมไม่ยืนยันว่า โจทก์เป็นเจ้าของนาพิพาทหรือนาพิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์ เป็นคำฟ้องเคลือบคลุม ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์บรรยายคำฟ้องตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น กล่าวคือ มีคนเข้าไปแผ้วถางบุกเบิกป่าเสม็ดทำเป็นนา โจทก์ก็เข้าไปแผ้วถางด้วยแล้วครอบครองทำประโยชน์ตรงที่โจทก์แผ้วถางด้วยเจตนาถือสิทธิเป็นเจ้าของตลอดมาเป็นเวลา 9 ปีเศษ เท่ากับกล่าวว่าโจทก์เป็นเจ้าของนาพิพาท หรือมีสิทธิครอบครองนาพิพาทนั่นเอง หาใช่กล่าวกำกวมไม่ จึงเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย”
พิพากษายืน