คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 407/2544

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คู่ความตกลงกันว่าให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญ 1 คน โจทก์ตั้ง 1 คนและจำเลยตั้ง 1 คน ร่วมกันตรวจสอบชี้ขาดว่า สามารถซ่อมแซมเสาเข็มต้นที่ 167 ได้ดีเป็นปกติได้มาตรฐานเหมือนเสาเข็มต้นอื่น ที่โจทก์ส่งมอบ งานให้จำเลยแล้วหรือไม่ ถ้าเสียงข้างมากว่าซ่อมไม่ได้โจทก์จะถอนฟ้องหากเสียงข้างมากว่าซ่อมได้ จำเลยจะจ่ายเงินประกันผลงานให้โจทก์ดังนั้น เมื่อเสียงข้างมากของผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่าซ่อมไม่ได้ โจทก์จึงต้องถอนฟ้องไปตามข้อตกลง การที่โจทก์ไม่ถอนฟ้องภายในเวลาที่ศาลกำหนด จึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลกำหนดไว้อันเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ที่โจทก์ให้ไว้เป็นประกันการปฏิบัติงานแก่โจทก์

ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ดำเนินการถอนฟ้องตามที่ตกลงกันไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 9 กันยายน2541 ภายใน 15 วัน แต่โจทก์ไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลาดังกล่าวศาลชั้นต้นจึงถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและสั่งจำหน่ายคดี โจทก์จากสารบบความโจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดคัดค้านว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ 9 กันยายน 2541 ข้อ 3 คู่ความรับกันว่า เสาเข็มเจาะต้นที่ 167มีความบกพร่อง คู่ความประสงค์ให้ศาลตั้งผู้เชี่ยวชาญ 1 คน โจทก์ตั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง 1 คน และจำเลยตั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง 1 คน รวม3 คน ร่วมกับตรวจสอบชี้ขาดว่าเสาเข็มต้นดังกล่าวสามารถซ่อมแซมได้ดีเป็นปกติ ได้มาตรฐานเหมือนเสาเข็มขนาดเดียวกับต้นอื่นที่โจทก์ส่งมอบงานให้จำเลยทั้งสองแล้วหรือไม่ ถ้าเสียงข้างมากของบุคคลที่ตั้งว่าซ่อมไม่ได้โจทก์จะถอนฟ้องคดีนี้ หากเสียงข้างมากของบุคคลที่ตั้งขึ้นว่าซ่อมได้ จำเลยทั้งสองจะจ่ายเงินประกันผลงานให้โจทก์แต่โจทก์ต้องทำหนังสือค้ำประกันของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยเท่าจำนวนเงินค่าประกันผลงานตามข้อ 2 มาให้จำเลยทั้งสองยึดถือไว้แทน แล้วโจทก์จะถอนฟ้องคดีนี้เช่นกัน หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญทำความเห็นแล้ว ศาลชั้นต้นได้นัดพร้อมและได้จดรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 25 ธันวาคม 2541 ว่า เกี่ยวกับการซ่อมแซมเสาเข็มต้นที่ 167 ว่า สามารถซ่อมแซมให้ดีเป็นปกติได้มาตรฐานเหมือนเสาเข็มขนาดเดียวกันกับต้นอื่นที่โจทก์ส่งมอบงานให้จำเลยทั้งสองแล้วหรือไม่นั้นผู้เชี่ยวชาญสองคนว่าซ่อมไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญหนึ่งคนว่าซ่อมได้ เมื่อเสียงข้างมากของบุคคลดังกล่าวเห็นว่าซ่อมไม่ได้ โจทก์ต้องถอนฟ้องตามที่คู่ความตกลงกัน ตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 9 กันยายน2541 ทนายโจทก์แถลงขอเวลา 7 วัน แจ้งเรื่องการถอนฟ้องให้โจทก์ทราบก่อน ทนายจำเลยที่ 1 ที่ 2 แถลงว่า กรณีตรงตามที่ตกลงกันไว้โจทก์ต้องถอนฟ้องคดีนี้ และทนายโจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ก็ไม่คัดค้านการถอนฟ้อง ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีโดยนัดพร้อมเพื่อรอฟังการดำเนินการของโจทก์ในวันที่ 21 มกราคม 2542 ในวันนัดพร้อมศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาว่า เมื่อโจทก์ไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาตามที่ตกลงกันไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 9กันยายน 2541 คือถอนฟ้องคดีนี้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ 25 ธันวาคม2541 เป็นการที่โจทก์ไม่ดำเนินกระบวนพิจารณาในเวลาที่ศาลกำหนดถือว่าเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(2) ให้จำหน่ายคดีโจทก์จากสารบบความ

คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้จำหน่ายคดีโจทก์ออกจากสารบบความชอบหรือไม่ปรากฏตามรายงานความเห็นของนายณัฐ ศรีเฟื่องฟุ้ง ผู้เชี่ยวชาญศาลทางด้านวิศวกรโยธา ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2541 ว่า แม้ว่าจะไม่สามารถซ่อมเสาเข็มต้นที่ 167 ได้เหมือนเสาเข็มเจาะขนาดเดียวกับต้นอื่น ๆที่โจทก์ได้ทำการเจาะไปแล้วก็ตาม หากแต่ว่าถ้าได้ซ่อมให้ถูกวิธีและหลักวิชาการ ความแข็งแรงที่ฐานรากที่มีเสาเข็มช่วยรับน้ำหนักต้นที่ 166,179, 180 ซึ่งวิศวกรได้คำนวณเพื่อความปลอดภัยไว้ทุกต้นแล้ว กระผมเชื่อว่าแม้ซ่อมแล้วการรับน้ำหนักของเสาเข็มต้นที่ 167 จะไม่ดีพอก็คิดว่าไม่มีปัญหาในการรับน้ำหนักเสาของอาคารที่สร้างบนฐานรากต้นนี้ เห็นว่าตามความเห็นของนายณัฐ แสดงว่าการซ่อมเสาเข็มต้นที่ 167 ไม่สามารถซ่อมแซมให้ดีเป็นปกติได้มาตรฐานเหมือนเสาเข็มต้นอื่นได้ ส่วนความเห็นอื่น ๆ เป็นเรื่องที่นายณัฐเสนอวิธีแก้ไขเพื่อให้สร้างอาคารบนฐานรากต้นที่ 167 ไม่มีปัญหาในเรื่องการรับน้ำหนักเท่านั้น จึงต้องถือว่าเสียงข้างมากของผู้เชี่ยวชาญที่ทำการตรวจสอบมีความเห็นว่า เสาเข็มต้นที่167 ซ่อมแซมให้ดีเป็นปกติได้มาตรฐานเหมือนเสาเข็มขนาดเดียวกันกับต้นอื่นที่โจทก์ได้ส่งมอบงานให้จำเลยทั้งสองแล้วไม่ได้ โจทก์จึงต้องถอนฟ้องไปตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 9กันยายน 2541 ข้อ 3 การที่โจทก์ไม่ถอนฟ้องไปภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2541 ซึ่งศาลกำหนดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 25 ธันวาคม 2541 จึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาที่ศาลเห็นสมควรกำหนดไว้อันเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2) ที่ศาลล่างทั้งสองให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ จึงชอบด้วยเหตุผลแล้ว”

พิพากษายืน

Share