คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2776/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า เช็คพิพาทลงวันที่ 23 ธันวาคม 2519 โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คพิพาทเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2520 คดียังไม่ขาดอายุความ จำเลยฎีกาว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คโดยไม่ลงวันที่ มอบให้บิดาโจทก์ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2508 คดีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 แล้ว ดังนี้ ปัญหาว่าเช็คถึงกำหนดเมื่อไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จำเลยกล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นมาในฎีกาว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทตั้งแต่ พ.ศ.2508 เป็นการกล่าวอ้างนอกเหนือจากศาลล่างวินิจฉัยไว้เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายเรื่องอายุความอีกทีหนึ่ง จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารนครหลวงไทย จำกัดลงวันที่ 23 ธันวาคม 2519 จำนวนเงิน 30,000 บาท ให้แก่นายโกตันหน่ำบิดาโจทก์เพื่อชำระหนี้เงินกู้โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเช็คดังกล่าว ต่อมาวันที่ 12 พฤศจิกายจน 2519 นายโกตันหน่ำถึงแก่กรรม โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายโกตันหน่ำตามพินัยกรรม โจทก์ได้นำเช็คดังกล่าวเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารปฏิเสธปฏิเสธการใช้เงิน จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 30,000 บาทแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินนายโกตันหน่ำไป 30,000บาท ตั้งแต่ประมาณเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ปี 2508 และได้ออกเช็ครายพิพาทโดยไม่ลงวันที่ให้ นายโกตันหน่ำไว้เป็นประกัน จำเลยที่ 1 ได้ผ่อนชำระหนี้ให้นายโกตันหน่ำรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 71,050 บาท นายโกตันหน่ำได้ยอมยกหนี้สินตามเช็ครายพิพาท 30,000 บาทนี้ให้จำเลยที่ 1 แล้ว แต่ยังไม่ได้คืนเช็คให้จำเลยที่ 1 โจทก์เอาเช็ครายพิพาทมาลงวันที่สั่งจ่ายเองโดยพลการเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต และจำเลยที่ 1 มอบเช็ครายพิพาทให้แก่นายโกตันหน่ำไว้เป็นประกันเงินกู้ตั้งแต่ปี 2508 นับถึงวันฟ้องเกิน 10 ปี คดีขาดอายุความแล้ว ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์จะเป็นทายาทและเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมของนายโกตันหน่ำหรือไม่ จำเลยที่ 2 ไม่ทราบและไม่ขอรับรองจำเลยที่ 2 ได้สลักหลังเช็ครายพิพาทอันเป็นเช็คไม่ลงวันที่เพื่อประกันหนี้เงินกู้ที่จำเลยที่ 1 กู้จากนายโกตันหน่ำจริง แต่จำเลยที่ 1 ได้ชำระหนี้ตามเช็คนั้นให้แก่นายโกตันหน่ำครบถ้วนแล้ว จำเลยที่ 2 จึงหลุดพ้นจากความรับผิดในฐานะผู้สลักหลัง โจทก์มิได้จด วัน เดือน ปีที่ถูกต้องลงในเช็ค หาถือตามวันเดือนปีที่ถูกต้องแล้ว เช็ครายนี้ก็ขาดอายุความฟ้องร้องแล้ว ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ไม่เชื่อว่าจำเลยได้ชำระหนี้ตามเช็คให้นายโกตันหน่ำแล้ว ส่วนปัญหาเรื่องอายุความนั้นเห็นว่า เช็ครายพิพาทลงวันที่ 23 ธันวาคม 2519 โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 17 มกราคม 2520 ยังไม่ขาดอายุความพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้เงินจำนวน 30,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะข้อกฎหมายในฎีกาข้อ 3(ข) ซึ่งจำเลยฎีกาว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็คโดยไม่ลงวันที่มอบให้นายโกตันหน่ำไว้ตั้งแต่ปี 2508 นับถึงวันฟ้องเกิน 10 ปี คดีจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 แล้ว
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 บัญญัติอายุความเรื่องเช็คไว้ว่าต้องฟ้องภายในหนึ่งปีนับแต่วันเช็คถึงกำหนดก็จริง แต่ปัญหาว่าเช็คถึงกำหนดเมื่อไรนั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่า เช็ครายนี้ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2519 โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 17 มกราคม 2520 คดียังไม่ขาดอายุความ ศาลล่างทั้งสองมิได้ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยสั่งจ่ายเช็ครายพิพาทตั้งแต่ปี 2508 ดังที่จำเลยอ้างในฎีกา จำเลยกล่าวอ้างข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นมาในฎีกานอกเหนือจากที่ศาลล่างได้วินิจฉัยไว้ เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อกฎหมายเรื่องอายุความอีกทีหนึ่ง จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 6
ให้ยกฎีกาของจำเลยทั้งสองเสีย คืนค่าธรรมเนียมฟ้องฎีกาทั้งหมดให้จำเลย

Share